ในประเทศ

จี้ มท. ตรวจสอบผับบาร์ทั่วประเทศ ลงดาบสถานบันเทิงเถื่อน

จี้ มท. ตรวจสอบผับบาร์ทั่วประเทศ ลงดาบสถานบันเทิงเถื่อน พร้อมเสนอปรับปรุงกฎหมายเพิ่มความเข้ม ทำประกันภัยภาคบังคับ  ป้องกันสูญเสียซ้ำรอยไฟไหม้ผับเมาท์เทนบี 19 ศพ เชื่อปัญหาไม่หมด หากเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้บังคับใช้กม.ยังฉ้อฉล สมประโยชน์ไร้ความรับผิดชอบ และความล้าสมัย กม.ตามไม่ทันเล่ห์กลธุรกิจ

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565  เวลา10.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย  นายธีรภัทร์  คหะวงศ์  ผู้ประสานงานเครือข่ายป้องกันและลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรีสมชาย  อามีน นายกสมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสิ่งแวดล้อม  นายชูวิทย์  จันทรส  เลขาธิการมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กว่า 30 คน เข้ายื่นหนังสือถึงพลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ผ่านทาง นายณัชวันก์  อัลภาชน์  เตชะเสน  ผอ.สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง  เพื่อเรียกร้องให้เร่งสั่งการตรวจสอบผับบาร์ทั่วประเทศ  ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ประกอบการเถื่อนผิดกฎหมาย ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ทันสถานการณ์

ว่าที่ร้อยตรีสมชาย  กล่าวว่า จากโศกนาฏกรรมเพลิงไหม้ผับเมาท์เทนบี ที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต19 ราย อายุต่ำ 20 ปี ถึง 3 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่อาการยังน่าเป็นห่วงอยู่อีกจำนวนมาก เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จากเหตุสลดที่เกิดขึ้นสร้างความโศกเศร้า หดหู่ แก่คนในสังคม ซ้ำรอยกับเหตุเพลิงไหม้ “ซานติก้าผับ” เมื่อปี 2552 จากรายงานของเจ้าหน้าที่พบว่า ร้านเหล้าแห่งนี้ได้เปิดให้บริการเป็นสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อสร้างโดยไม่ได้มาตรฐาน และยังตั้งอยู่ในเขตพื้นที่โซนนิ่งที่ไม่อนุญาตให้เปิดสถานบันเทิง ซึ่งร้านเมาท์เทน บี เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 2 เดือน นักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ต่างรู้ดี แต่ทางเจ้าหน้าที่ปกครอง ตำรวจ กลับอ้างว่าไม่ทราบว่าร้านดังกล่าวลักลอบดัดแปลงจากร้านอาหารเป็นผับบาร์ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ,46/2559 ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีใช้บริการ/ดื่มสุรา เปิดและขายสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด  ซึ่งบทลงโทษต้องถูกสั่งปิด 5 ปี อีกด้วย

“เหตุการณ์ครั้งนี้ สะท้อนการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งเจ้าหน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้ว่าฯ นายอำเภอ สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่เข้มงวดกวดขันปล่อยให้มีการเปิดผับบาร์โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อสร้างดัดแปลงอาคารโดยไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย รวมถึงฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมืองที่เกี่ยวข้องกับความสงบเรียบร้อยของสังคมอีกหลายประการ ส่งผลให้เกิดโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญซ้ำรอยในครั้งนี้ จนเป็นที่ครหาว่าเจ้าหน้าที่มีการรับผลประโยชน์จากสถานบันเทิงแห่งนี้หรือไม่  กระทรวงมหาดไทยจึงควรเด็ดขาดจริงจังในเรื่องนี้  ถึงเวลาต้องรื้อใหญ่ทั้งระบบเสียที”  นายกสมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิฯ  กล่าว

นายธีรภัทร์  กล่าวว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นเครือข่ายฯ มีข้อเรียกร้องต่อกระทรวงมหาดไทย ดังนี้ 1.เร่งสั่งการตรวจสอบผับบาร์ทั่วประเทศ ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ประกอบการเถื่อน และสถานบริการที่ได้รับอนุญาตแต่ทำผิดกฎหมาย  รวมถึงขอให้ดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปล่อยปละละเลย หรือพบว่ามีการรับผลประโยชน์ 2.ขอเสนอให้มีการแก้ไข พรบ.สถานบริการ พ.ศ.2509 ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการ รวมถึงสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ในประเด็นสำคัญ ๆ อาทิ ให้มีการทำประกันภัยภาคบังคับ เพื่อเป็นหลักประกันให้ผู้ที่เข้าไปใช้บริการ กำหนดให้มีการฝึกซ้อมหนีไฟหรือรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้  เพิ่มบทลงโทษสถานบริการเถื่อน ที่เปิดให้บริการเป็นสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาต  และให้นำเนื้อหาส่วนที่เกี่ยวข้องในคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ,46/2559 มาบรรจุไว้ในกฎหมายสถานบริการ เช่น หากพบว่ามียาเสพติด , อาวุธ/ระเบิด , ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีใช้บริการ/ดื่มสุรา , เปิดและขายสุราเกินเวลา , มีการพนัน , ค้ามนุษย์ ให้สั่งปิด 5 ปี หรือกำหนดเขตโซนนิ่งใกล้เคียงสถานศึกษาห้ามตั้งสถานบริการหรือสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ เป็นต้น

3.ขอให้กระทรวงฯประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มีการพิจารณามาตรการการเยียวยาผู้เสียหายอย่างเป็นธรรม ทั้งกรณีบาดเจ็บและเสียชีวิต ค่ารักษาพยาบาล ค่าปลงศพ และค่าชดเชยโดยคำนวณความสูญเสียทางเศรษฐกิจตามประมาณการณ์อายุของผู้เสียชีวิตโดยให้ได้รับการเยียวยาที่เป็นธรรมที่สุด รวมถึงขอเรียกร้องผ่านไปยังกระทรวงแรงงานได้เข้าไปดูแลสิทธิของลูกจ้างในสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย 4.ขอเรียกร้องให้ทุกสถานประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันปัญหาและความสูญเสียที่จะตามมา ตลอดจนผู้ประกอบการสถานบริการควรช่วยกันตรวจสอบ จัดการผู้ประกอบการที่สร้างปัญหา ทำผิดกฎหมาย ไม่เคารพกติกาบ้านเมือง 5. เครือข่ายขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง  และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อความสงบสุขของสังคม และขอเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวัง  แจ้งเหตุร้านเหล้าผับบาร์ที่ทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ

ด้าน นายณัชวันก์  อัลภาชน์  เตชะเสน  ผอ.สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง  กล่าวภายหลังรับเรื่องว่า  จะนำข้อเรียกร้องทั้งหมด เรียนให้ท่านรมว.มท.รับทราบ ที่ผ่านมาท่านได้สั่งการให้สอบสวนข้อเท็จจริง อย่างรัดกุมเป็นไปตามกฎหมาย รวมถึงประสานงานกับทุกจังหวัดแจ้งข้อมูล  และเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยวันที่19 ส.ค.นี้จะมีการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับผู้ว่าราชการทุกจังหวัด เพื่อสั่งการและกำชับในเรื่องนี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เราได้รับการร้องเรียนสถานบริการทั้งถูกและเถื่อน เช่น เสียงดัง ทะเลาะวิวาท การพกพาอาวุธ ยาเสพติด แอบแฝงการทำผิดกฎหมาย ช่วงเวลาเปิดปิด อายุคนเข้าใช้บริการ  การจราจร  ดังนั้น สถานบริการที่มีใบอนุญาต ต้องไปตรวจสอบข้อกฎหมายให้ดี และหากประชาชนพบเห็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ชุดปฏิบัติการส่วนกลางหรือท้องถิ่น มีการเรียกรับสินบน เพื่อแสดงหาผลประโยชน์ ขอให้แจ้งมาที่เบอร์โทร.098-9579999