กรุงศรีสรุปมูลค่าขาย ‘ตราสารเงินกองทุน’ รวม 16,540 ล้านบาท เผยยอดจองล้นหลาม
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เผยประสบความสำเร็จอย่างมากจากการออกและเสนอขายตราสารเงินกองทุนให้แก่ผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบันที่ตอบรับอย่างล้นหลาม ส่งผลให้ปิดการจำหน่ายตราสารเงินกองทุนได้ตามเป้าหมาย 16,540 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งมั่นคงของธนาคาร พร้อมผนึก MUFC สานพันธกิจในการเป็น “สถาบันการเงินไทยที่เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า พร้อมเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน” เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมทางการเงิน และนำเสนอผลิตภัณฑ์ส่งเสริม ESG เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรี ขอขอบคุณผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบัน ที่ให้ความสนใจจองซื้อตราสารด้อยสิทธิเพื่อนับเป็นเงินกองทุนประเภทที่ 2 หรือ ‘ตราสารเงินกองทุน’ ของธนาคาร อย่างล้นหลาม จนทำให้สามารถเสนอขายตราสารเงินกองทุนได้ตามเป้าหมาย ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ผู้ลงทุนมีต่อธนาคาร ทั้งในแง่ของฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง รวมถึงโอกาสในการเติบโตจากแผนการขยายธุรกิจของธนาคารในอนาคต”
ทั้งนี้ กรุงศรี ได้ดำเนินการออกและเสนอขาย “ตราสารเงินกองทุน” ของธนาคาร อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.30% ต่อปี ให้แก่ผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบัน ในระหว่างวันที่ 3-16 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา โดยตราสารชุดนี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AA(tha) โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 สะท้อนความแข็งแกร่งของธนาคาร ในฐานะกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ในระบบเศรษฐกิจไทยจากมูลค่าสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินรับฝาก และเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB)
ปัจจุบัน กรุงศรี เป็นสถาบันการเงินในเครือมิตซูบิชิ ยูเอฟ เจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ซึ่งเป็นกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยเครือข่ายสำนักงานกว่า 2,400 แห่ง ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ล่าสุด กรุงศรี ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 บริษัทจดทะเบียนที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental Social and Governance: ESG) จากการประเมินหลักทรัพย์จดทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 851 บริษัท โดยกรุงศรีได้รับการคัดเลือกให้เข้าอยู่ในทำเนียบ ESG100 เป็นปีที่ 7 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกรุงศรีในการบูรณาการพันธกิจด้าน ESG เข้ากับยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งสู่การธนาคารอย่างยั่งยืน
“เรายังคงเดินหน้าในการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดธุรกิจการเงินเพื่อความยั่งยืน โดยนำความเชี่ยวชาญ รวมถึงองค์ความรู้จาก MUFG มาใช้ประโยชน์ และมุ่งส่งเสริมการทำธุรกิจด้าน ESG เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยสนับสนุนลูกค้าในการเติบโตอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน กรุงศรี ยังคงมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำนวัตกรรมทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีหลักให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายและการลงทุนในด้านเทคโนโลยีระดับโลกของ MUFG ในการเชื่อมโยงกับธนาคารพันธมิตรในอาเซียน รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นผู้นำในโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินอัจฉริยะและแพลตฟอร์มเชิงพาณิชย์ให้กับตลาดทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยต่อไป” กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรุงศรี กล่าว