สสส. ย้ำลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ ใช้เงินต้องเห็นผลจริง ชี้งานป้องกันบุหรี่ เหล้า พนัน และยาเสพติด ต้องวัดผลระยะยาว พร้อมปรับแผนครึ่งทางให้ตรงเป้า
กรุงเทพฯ – สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ยืนยันการทำงานด้านการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลักของประเทศ ไม่ได้เป็นเพียงการสนับสนุนงบประมาณให้โครงการต่าง ๆ เท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องมีเป้าหมาย ตัวชี้วัด และการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การใช้เงินสาธารณะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพของคนไทย

คุณรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก (สำนัก 1) สสส. เปิดเผยว่า ทุกโครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจะต้องอยู่ภายใต้กรอบ แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี และแผนปฏิบัติการรายปีที่กำหนดตัวชี้วัดไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่
“เราไม่ได้ให้เงินแล้วปล่อยให้ทำตามยถากรรม ทุกโครงการต้องระบุชัดตั้งแต่ต้นว่าจะวัดผลอย่างไร ติดตามอย่างไร และผลลัพธ์ที่คาดหวังคืออะไร”
สำหรับโครงการที่ใช้งบประมาณไม่เกิน 20 ล้านบาท จะใช้กลไกการประเมินผลตามกรอบที่ สสส. กำหนดไว้ แต่หากเป็นโครงการที่ใช้งบเกิน 20 ล้านบาท จะต้องมี คณะกรรมการประเมินผลภายนอก เข้ามาร่วมพิจารณา เพื่อเพิ่มความเข้มข้นด้านความโปร่งใสและความคุ้มค่าในการใช้เงิน
ประเมินผลไม่ใช่แค่ “ผ่าน–ไม่ผ่าน” แต่ดูว่า “ยอมรับได้หรือไม่”
คุณรุ่งอรุณอธิบายว่า การประเมินผลของ สสส. ไม่ได้ใช้วิธีคิดแบบขาว–ดำ แต่จะพิจารณาว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในระดับที่รับได้หรือไม่ หากโครงการใดตั้งเป้าไว้สูง แต่ทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานมาก เช่น การบังคับใช้กฎหมายทำได้เพียง 10% ของเป้าหมาย โครงการนั้นจะไม่สามารถขอรับการสนับสนุนต่อได้
“เราไม่สามารถเอาเงินไปลงกับโครงการที่พิสูจน์แล้วว่าไม่เกิดผล เพราะเงินทุกบาทคือเงินของสังคม”
ขณะเดียวกัน สสส. ยอมรับว่าบางงานจำเป็นต้องใช้เวลา และไม่สามารถวัดผลได้ในระยะสั้น โดยเฉพาะงานรณรงค์และงานเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งต้องอาศัยการสะสมต่อเนื่อง

“งดเหล้าเข้าพรรษา” ตัวอย่างงานที่ต้องมองระยะยาว
หนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนแนวคิดนี้ คือ โครงการงดเหล้าเข้าพรรษา ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2546 และมีการประเมินผลทุกปี คุณรุ่งอรุณยอมรับว่า ตัวเลขผู้เข้าร่วมมีความผันผวน บางปีเพิ่มขึ้น บางปีลดลง และมีหลายกลุ่มที่สามารถลดการดื่มได้เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองภาพรวมในระยะยาว งานรณรงค์ดังกล่าวช่วยเปลี่ยนบรรทัดฐานทางสังคม ทำให้การดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสำคัญไม่ใช่เรื่องปกติอีกต่อไป
“ถ้าเราไม่ลงทุนมาตั้งแต่ 20 ปีก่อน วันนี้คงไม่เห็นภาพเทศกาลปลอดเหล้า ปลอดอุบัติเหตุ หรือพื้นที่ท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับครอบครัวแบบที่เกิดขึ้นแล้ว”
ประเมินครึ่งทางแผน 5 ปี พบต้องปรับยุทธศาสตร์ให้ชัดขึ้น
จากการประเมินผลครึ่งทางของแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (ครบ 2.5 ปี) ผู้ประเมินภายนอกชี้ว่า บางโครงการยังทำงานไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์หลักมากพอ สสส. จึงต้องปรับวิธีการสนับสนุนให้เข้มข้นขึ้น
ในระยะหลัง สสส. หันมาใช้แนวทาง การสนับสนุนเชิงรุก โดยคัดเลือกภาคีที่มีศักยภาพและทำงานตอบโจทย์ยุทธศาสตร์โดยตรง มากกว่าการเปิดรับข้อเสนอทั่วไปทั้งหมด ขณะเดียวกันก็ยังเปิดพื้นที่บางส่วนเพื่อสร้างนักทำงานรุ่นใหม่และนวัตกรรมทางสังคม
เด็กและเยาวชน: จุดโฟกัสสำคัญของปี 2569 เร่งรับมือ “บุหรี่ไฟฟ้า”

คุณรุ่งอรุณระบุว่า ในปี 2569 สสส. ให้ความสำคัญกับปัญหา บุหรี่ไฟฟ้า อย่างมาก โดยมุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้และหลักฐานเชิงประจักษ์ในบริบทประเทศไทย เช่น การเก็บข้อมูลผู้ป่วยที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อยืนยันผลกระทบต่อสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังกลยุทธ์การตลาด โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่เข้าถึงเด็กและเยาวชนได้ง่าย พร้อมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) ให้เด็กตระหนักว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย และส่งผลกระทบต่อผู้อื่นด้วยกลไกสำคัญคือ โรงเรียน ครู ครอบครัว และผู้ปกครอง ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ใช้กฎหมายใหม่ให้ปกป้องเด็กจริง
ในส่วนของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังการประกาศใช้กฎหมายฉบับใหม่ สสส. มุ่งผลักดันกฎหมายลูกที่มีมาตรฐานและป้องกันเด็กเยาวชนได้จริง โดยเฉพาะเรื่องสถานที่จัดงาน การใช้พื้นที่สาธารณะ และความรับผิดชอบของร้านค้า
“เราอยากเห็นร้านค้าเข้าใจกฎหมายและปฏิบัติได้ถูกต้อง ผ่านการสื่อสารและการอบรม มากกว่าการใช้วิธีไล่จับเพียงอย่างเดียว”
อีกประเด็นที่ท้าทายคือ การโฆษณาและการตลาด ซึ่งต้องควบคุมให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งสินค้าในประเทศและนำเข้า เพื่อไม่ให้กลายเป็นข้ออ้างทางการค้า
ยาเสพติด: เติมช่องว่างหลังการบำบัดด้วยพลังชุมชน
คุณรุ่งอรุณกล่าวว่า สสส. ไม่ได้ทำงานด้านการปราบปรามหรือรักษาโดยตรง แต่เข้าไปเติมช่องว่างสำคัญด้วยแนวคิด การบำบัดในชุมชน ที่ทำงานร่วมกันระหว่างสาธารณสุข มหาดไทย ตำรวจ และแกนนำชุมชน
ผลการดำเนินงานพบว่า หลายอำเภอสามารถประสานงานกันได้ดีขึ้น และกำลังขยายผลในระดับจังหวัด เพื่อสร้างระบบรองรับผู้ผ่านการบำบัดให้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างยั่งยืน

การพนัน: ลดโอกาส สร้างภูมิคุ้มกันทางความคิด
สำหรับปัญหาการพนัน สสส. ใช้ทั้งงานวิชาการและกิจกรรมเชิงประสบการณ์ เพื่อให้เด็กและเยาวชนเข้าใจกลไกการพนันอย่างแท้จริง โดยชี้ให้เห็นว่า การพนันแต่ละประเภทไม่สามารถทดแทนกันได้ และการเพิ่มโอกาสเข้าถึงยิ่งเพิ่มความเสี่ยง กิจกรรมเรียนรู้ในรูปแบบเกมและสื่อออนไลน์ถูกนำมาใช้ เพื่อให้เด็กเห็นผลลัพธ์จริง มากกว่าการสอนเชิงทฤษฎี
เป้าหมายระยะยาว: เปลี่ยนบรรทัดฐานสังคม
คุณรุ่งอรุณย้ำว่า เป้าหมายสูงสุดของ สสส. ไม่ใช่เพียงตัวเลขในรายงานประจำปี แต่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบและเชิงวัฒนธรรมของสังคมไทย
“เงินเราไม่พอที่จะลงไปทำงานทุกพื้นที่ สิ่งที่สำคัญคือทำให้คนในสังคมลุกขึ้นมาเป็นเจ้าภาพร่วมกัน เห็นแล้วไม่ยอม ปล่อยให้เด็กเยาวชนตกอยู่ในความเสี่ยงไม่ได้”
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต้องอาศัยเวลา ความต่อเนื่อง และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสังคมไทยที่ปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยงหลักอย่างแท้จริง

