“สว.ชิบ” นำคณะผู้แทนมิตรภาพรัฐสภาไทย–ซาอุฯเยือนริยาด กระชับความสัมพันธ์ 60 ปี
“สว.ชิบ” นำคณะผู้แทนมิตรภาพรัฐสภาไทย–ซาอุฯเยือนริยาด กระชับความสัมพันธ์ 60 ปี ปักหมุดความร่วมมือรอบใหม่ ด้านซาอุฯขอไทยเร่งเดินหน้าผลักดัน FTA ข้อตกลงการค้าเสรีไทย–ซาอุฯ

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ณ กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย คณะผู้แทนกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย–ซาอุดีอาระเบีย นำโดย นายชิบ จิตนิยม สมาชิกวุฒิสภาและประธานกลุ่มฯ พร้อมด้วยคณะสมาชิกวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียระหว่างวันที่ 24–29 พฤศจิกายน 2568 ตามคำเชิญของ ดร. Ali bin Saad Al Ali ประธานคณะกรรมาธิการมิตรภาพรัฐสภาซาอุดีอาระเบีย–ไทย
นายชิบ จิตนิยม เปิดเผยว่าการเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งนี้ ได้มีการหารือระหว่างสองฝ่ายมุ่งทบทวนพัฒนาการความสัมพันธ์ไทย–ซาอุฯ ภายหลังการฟื้นฟูความสัมพันธ์เมื่อปี 2565 ผ่านกลไกสภาความร่วมมือซาอุ–ไทย (STCC) รวมทั้งแนวทางความร่วมมือด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ความมั่นคง กลาโหม วัฒนธรรม การศึกษา และการท่องเที่ยว ตลอดจนการส่งเสริมบทบาทร่วมในเวทีระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ

นายชิบ กล่าวด้วยว่าเป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ในหลายประเด็น ทั้งด้านเกษตร สิทธิมนุษยชน วิทยาศาสตร์ การศึกษา และอุตสาหกรรมฮาลาล ซึ่งสอดคล้องกับ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย และยุทธศาสตร์ชาติของไทย พร้อมทั้งเป็นการขยายช่องทางความร่วมมือระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศให้มีความใกล้ชิดยิ่งขึ้น
“ประเด็นสำคัญหนึ่งที่ฝ่ายซาอุดีอาระเบียหยิบยกขึ้นหารือ คือ การผลักดันข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย–ซาอุดีอาระเบีย โดยขอให้กลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย–ซาอุดีอาระเบียช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนในฝั่งรัฐบาลไทย เนื่องจากซาอุดีอาระเบียรอคอยความชัดเจนในกระบวนการดังกล่าว” สว.ชิบกล่าวย้ำ

นายชิบ กล่าวว่านอกจากงนี้คณะผู้แทนไทยยังได้เข้าเยี่ยมชมอาคารสภาที่ปรึกษาแห่งซาอุดีอาระเบีย รับฟังบรรยายเกี่ยวกับโครงสร้างและบทบาทของรัฐสภา รวมทั้งเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และนวัตกรรมสมัยใหม่ในกรุงริยาด โดยมีเอกอัครราชทูตไทยให้การต้อนรับ การเยือนครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายความร่วมมือทวิภาคีที่ดำเนินมากว่า 6 ทศวรรษ และช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพของความสัมพันธ์ไทย–ซาอุดีอาระเบียทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนต่อไป
ด้าน ดร. Ali bin Saad Al Ali แสดงความพอใจต่อทิศทางความสัมพันธ์ไทย–ซาอุดีอาระเบียที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และย้ำว่า Vision 2030 จะเปิดโอกาสให้ความร่วมมือระหว่างสองประเทศขยายตัวได้อีกมาก รวมถึงความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกให้ชาวไทยมุสลิมประกอบพิธีฮัจญ์และอุมเราะห์

ขณะที่ นายดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด เปิดเผยว่า เรื่อง FTA ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งจำเป็นต้องจัดตั้งกลไกหารือและจัดทำร่างข้อตกลงก่อนเข้าสู่กระบวนการลงนามอย่างเป็นทางการ โดยยังมีอีกหลายสาขาที่ได้พูดคุยในเบื้องต้นแต่ยังไม่บรรลุข้อตกลง เช่น ความร่วมมือด้านการเกษตร พลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งล้วนเป็นสาขาที่ทั้งสองประเทศมีศักยภาพต่อยอดร่วมกัน

