ในประเทศ

“บิ๊กโจ๊ก” ลั่นปี 2567 บังคับใช้กฎหมายเข้มข้นเพื่อความปลอดภัยทางถนน

“บิ๊กโจ๊ก” ลั่นปี 2567 บังคับใช้กฎหมายเข้มข้นเพื่อความปลอดภัยทางถนน ประกาศจัดหนักพวก “เมาแล้วขับ-ไม่สวมหมวกกันน็อค” ต้นเหตุสำคัญทำคนตายบนถนน ขู่ลูกน้องห้ามสร้างภาพปั้นตัวเลขยอดตายทำให้แก้ปัญหาไม่ถูกจุด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวในงาน “รัฐสภาไทย…สานพลังเพื่อความปลอดภัยทางถนน”” จัดโดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 ณ อาคารรัฐสภาว่า งานดังกล่าวเป็นภาพบวกมากๆที่ผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมืองโดยเฉพาะรัฐบาลและรัฐสภาให้ความสำคัญในเรื่องของการขับเคลื่อนเรื่องความปลอดภัยทางถนน เป็นการสานพลังทั้งหมดในการบูรณาการตั้งชุดทำงานคณะทำงานในการขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน ซึ่งในห้วง 7 วันอันตรายที่ผ่านมา (เทศกาลปีใหม่) สิ่งที่เป็นผลชัดเจนต่อความปลอดภัยของประชาชนคือ สถิติยอดการตายลดต่ำกว่า 300 เป็นครั้งแรกเป็นประวัติการณ์ในรอบ 12 ปี ซึ่งเกิดจากการบูรณาการร่วมมือกันอย่างจริงจังทุกส่วน ตนในฐานะผู้รับผิดชอบในภาคการบังคับใช้กฎหมายสิ่งสำคัญวันนี้ก็คือเรื่องเมาจะเห็นว่าทุกปี เรื่องดื่ม-เมาดื่ม-ขับรถจะเป็นปัจจัยหลักในการเกิดอุบัติเหตุ แต่ขณะนี้เรื่องดื่ม-ขับรถกลายไปเป็นปัจจัยรองแล้ว เพราะจากการบูรณาการร่วมกันทั้งแพทย์ สาธารณสุขแล้วก็หน่วยงานฝ่ายปกครองทั้งหมด โดยเฉพาะตำรวจเราเน้นตั้งจุดวัดแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวด ตั้งจุดตรวจแอลกอฮอล์ทั้งเส้นสายรอง สายหลัก ทำให้ยอดการตายจากเมาลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน

อย่างไรก็ตามจุดอ่อนเราต้องยอมรับว่าตัวชี้วัดทั้งหมดของประเทศไทยเราอยู่เป็นอันดับต้นๆของโลกเรื่องการเสียชีวิต เพราะฉะนั้นในปีนี้ตำรวจจะเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมในการขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน ไม่ใช่ทำแค่ 7 วันอันตราย เราจะต้องทำทุกเดือน ทำทุกวัน ทำทั้งปี ในปีนี้จะเริ่มเป็นรายเดือนและดูเป็นรายสัปดาห์ โดยกำชับตำรวจทั้งประเทศบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับเรื่องรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อค เพราะสถิติการเสียชีวิตทุกวันนี้เกิดจากรถจักรยานยนต์กว่า 89 % สิ่งสำคัญก็คือไม่สวมหมวกกันน็อคเป็นหลัก เราต้องบังคับใช้กฎหมายให้คนไทยให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คนไทย-ชาวต่างชาติต้องใส่หมวกกันน็อค

“ที่ผ่านมาผมยอมรับลูกน้องบางส่วนมีการไปแต่งตัวเลข มีการไม่รายงาน แต่วันนี้เมื่อตนมารับผิดชอบการรายงานเรื่องการเจ็บการตายมีอยู่ 3 หน่วย 1.ตำรวจ 2.สาธารณสุข 3.บริษัทประกันวินาศภัย ตัวเลขตรงกันหมด ผมคาดโทษว่าผู้กำกับโรงพักจะต้องรายงานยอดจริง ตายต้องเป็นตาย เจ็บต้องเป็นเจ็บ เราจะไม่เล่นกับตัวเลขเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ปีนี้เป็นปีแรกก็ว่าได้วันนี้ตัวเลขตรงกันหมด เราต้องเอาความจริงมาตั้งบนโต๊ะแล้วก็แก้ปัญหาให้ถูก วันนี้ตนกราบเรียนท่านสมาชิกรัฐสภา กราบเรียนผู้ใหญ่บ้านเมืองคือการเพิ่มเทคโนโลยี วันนี้เรายังขาดเทคโนโลยีอยู่มากระบบกล้อง AI กล้องโดยเฉพาะในถนนหมู่บ้าน ในถนนเส้น อบต. เหล่านี้เป็นถนนที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด เพราะฉะนั้นเราต้องเพิ่มระบบเทคโนโลยีเข้าไปช่วยการทำงานครับ”รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวย้ำ