ในประเทศ

สสส.-สกร. ผนึกกำลัง MOU เดินหน้าสร้างระบบคุ้มครองเด็กไทยปลอดภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า

น่าห่วง! วัยรุ่น-คนรุ่นใหม่ สูบบุหรี่ไฟฟ้าพุ่ง 69.4% ชี้กรุงเทพฯ สูบเยอะที่สุด สสส.-สกร. ผนึกกำลัง MOU เดินหน้าสร้างระบบคุ้มครองเด็กไทยปลอดภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า จัดพื้นที่เรียนรู้ปลอดบุหรี่-เสริมทักษะรู้เท่าทัน-รณรงค์สร้างกระแส พร้อมยกระดับผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพ 1,004 คน รับมือวิกฤตการตลาดบุหรี่ไฟฟ้าที่เข้าถึงง่าย-รูปลักษณ์ดึงดูดใจ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 ธ.ค. 2568 ที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์กรุงเทพฯ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าและปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ ร่วมกับ ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อร่วมกันการดำเนินงานเชิงรุกในการสร้างสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้และสังคมปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

โดย นพ.พงศ์เทพ กล่าวภายหลังว่า สถานการณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดต่อระบบสาธารณสุขและการศึกษาของประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน จากผลสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 7 ปี 2567-2568 พบกลุ่มอายุ 15-29 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงถึง 69.4% รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 30-44 ปี อยู่ที่ 21.3% โดยกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ที่พบการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในวัยรุ่นสูงที่สุด สาเหตุสำคัญมาจากการตลาดที่เข้าถึงง่าย มีรสชาติและรูปลักษณ์ที่ดึงดูดใจ ทำให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงเป็นประตูสู่การเสพติดนิโคตินและสารเสพติดอื่นๆขณะที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีผู้สูบบุหรี่ และผู้ได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้านสูงที่สุด

“สสส. มุ่งมั่นป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชน จึงได้ลงนามความร่วมมือร่วมกับ สกร. เพื่อยกระดับสร้างระบบคุ้มครองผู้เรียนให้ปลอดภัยจากบุหรี่ ผ่านการขับเคลื่อน 3 ด้าน 1.ผลักดันมาตรการและกลไกเชิงนโยบาย จัดพื้นที่เรียนรู้ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า 2.เสริมทักษะรู้เท่าทัน สร้างภูมิคุ้มกันทางความคิดและพฤติกรรมให้บุคลากรและผู้เรียน 3.รณรงค์สร้างกระแสสังคม ใช้เทคโนโลยีเผยแพร่สื่อสุขภาพ สร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญ เป็นการยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีของเยาวชนไทยปลอดภัยจากควันบุหรี่ทุกชนิด” ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว

นพ.พงศ์เทพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สสส. ยังได้พัฒนาระบบและเครื่องมือสนับสนุนการทำงาน 1.พัฒนาหลักสูตรและสื่อการเรียนรู้ ที่เหมาะสมกับบริบทของผู้เรียนและบุคลากร2.สนับสนุนข้อมูล องค์ความรู้ สื่อสร้างสรรค์ในการรณรงค์ จัดทำระบบติดตามและสำรวจข้อมูลพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มผู้เรียนนอกระบบ 3.สนับสนุนบุคลากร ให้มีสมรรถนะในการเป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง”ด้านสุขภาพ ซึ่งจะมีการจัดอบรมพัฒนาทักษะและให้ความรู้แก่ผู้บริหารส่วนกลางและผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัด สกร. 1,004 คน ในประเด็นอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า เสริมทักษะการเฝ้าระวัง ป้องกัน และจัดการความเสี่ยงในสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ