ในประเทศ

นักวิชาการหวั่นเยาวชนสุขภาพพัง หลังบุหรี่ไฟฟ้าจัดโปรส่งท้ายปีแค่ 79 บาท!

นักวิชาการเตือนครู-ผู้ปกครอง เฝ้าระวังเยาวชน หลังผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้ากระหน่ำจัดแคมเปญส่งท้ายปีผ่านช่องทางออนไลน์  ราคาเริ่มต้นเพียง 79 บาท! จี้หน่วยงานรัฐกวดขันควบคุมปิดช่องทางจำหน่าย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรีรัช ลาภใหญ่ นักวิชาการด้านการสื่อสารสุขภาพ กลุ่มวิชาสหวิทยาการและการศึกษาตลอดชีวิต (I-GRAD) คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุ ปัจจุบันพบว่าผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าแห่จัดแคมเปญผ่านช่องทางออนไลน์ กระหน่ำลดราคาเพราะเป็นช่วงใกล้สิ้นปี โดยบางร้านเสนอขายบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งในราคาเพียง 79 บาทเท่านั้น ถือว่าเป็นราคาต่ำที่สุดในรอบปี

นอกจากนั้น ยังมีสารพัดโปรโมชั่น ไม่ว่าจะเป็นโปร “ซื้อ 4 แถม 1” ส่งฟรีทุกจังหวัด โปรประจำวันศุกร์ Black Friday โปรเก็บโค้ด โปรวันเกิด รวมทั้งโปรพิเศษตามเทศกาล เช่นฮัลโลวีน วันหยุดยาว หรือเก็บแต้มสะสมแลกส่วนลดเงินสด แถมบางร้านให้ผ่อนโดยไม่มีขั้นต่ำ หรือ ซื้อเครื่องแถมน้ำยา ซื้อครบชุดแถมสายคล้องคอ ซื้อหลายชิ้นมีส่วนลดเพิ่ม ส่งฟรีทุกพื้นที่ ส่งด่วนด้วยมอเตอร์ไซค์ บางร้านส่งของทุก 2 ชั่วโมง เพื่อดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นและนักเรียน นักศึกษาให้ทดลองใช้

อย่างไรก็ตาม แต่ละร้านยังมีแอดมินให้บริการ 24 ชั่วโมง ทำให้เยาวชนเข้าถึงง่ายและผลที่ตามมาคือสุขภาพพัง เห็นได้จาก ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขที่ระบุว่า จำนวนเด็กไทยป่วยด้วยโรคปอดอักเสบจากบุหรี่ไฟฟ้าพุ่งกว่า 100 ราย และแอดมิตโรงพยาบาลกันรายวันเพียงเพราะสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรีรัช ระบุว่า การตลาดลักษณะนี้เป็นกลยุทธ์ “ลดราคา-ล่อใจ-สร้างการรับรู้ซ้ำ” ซึ่งเข้าข่ายการตลาดแบบจูงใจ (Persuasive Marketing) ที่มุ่งกระตุ้นพฤติกรรมเสพติดในกลุ่มเยาวชน แม้บุหรี่ไฟฟ้ายังคงเป็นสินค้าผิดกฎหมายในไทย แต่ช่องทางออนไลน์กลับเปิดโอกาสให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มที่มีในประเทศ

”ผลการสำรวจพบว่าปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งราคาเพียง 79-84บาท หรือไม่ถึง 100 บาท รสชาติผลไม้ต่างๆ สีสันสวยงาม สูบได้ถึง 2,000 ครั้ง

“ปรากฎการณ์เหล่านี้คือกลยุทธ์การตลาดอันตรายที่อาศัยจังหวะการซื้อขายออนไลน์ที่ราคาถูก เห็นบ่อย ง่ายและสะดวกเพื่อจูงใจให้เยาวชนสนใจ และอาจนำไปสู่การเสพติดนิโคตินในระยะยาว แม้จะมีการปราบปรามการค้าขายบุหรี่ไฟฟ้าทั้งออนไลน์และตามร้าน แต่ปัจจุบันก็ยังคงพบการขายเริ่มกลับมาเช่นเดิม หน่วยงานรัฐจึงต้องเข้มงวดในการควบคุมการจำหน่ายทางออนไลน์ และขอให้ผู้ปกครอง ครู และสังคมช่วยกันเฝ้าระวังบุตรหลานพร้อมให้ความรู้กับเยาวชนถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า“