ในประเทศ

สสว. เดินหน้าหนุน SME ร้อยเอ็ด-ภาคอีสาน จับมือพันธมิตรภาครัฐ มอบสิทธิประโยชน์   ใต้แนวคิด SME Privilege Club

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เดินหน้าพัฒนาผู้ประกอบการผนึกพลังหน่วยงานภาครัฐมอบสิทธิประโยชน์ ให้กับผู้ประกอบการ SME  จัดทำโครงการโครงการพัฒนาความร่วมมือภาครัฐเพื่อสร้างสิทธิประโยชน์ให้แก่ SME ปีงบประมาณ 2566 ภายใต้แนวคิด SME Privilege Club พร้อมเริ่มเดินสายสนับสนุนผู้ประกอบการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อยกศักยภาพ SME ให้เติบโตแข็งแกร่ง มั่นคง ยั่งยืน

ภายในงานเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องประดับเงิน อาคารแกรนด์บอลรูม โรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้น จ.ร้อยเอ็ด ได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว),ตลอดจนหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ ให้การต้อนรับผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เดินทางมาร่วมกิจกรรม และสมัครขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการรับบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจกันอย่างคึกคัก

ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) มีความมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จึงได้จัดทำโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการภายใต้แนวคิด SME Privilege Club ซึ่งเป็นการจับมือระหว่าง สสว.กับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อพัฒนาความร่วมมือ ในการสร้างสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการ เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการให้สูงขึ้น และเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการตลาด หรือ ยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพ หรือลดต้นทุน หรือ สร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนต่อไป

สำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับสิทธิประโยชน์ คือ ผู้ประกอบการ MSMEs ไทย ที่เป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาเป็นวิสาหกิจรายย่อย วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พื้นที่ดำเนินการทั่วประเทศ ซึ่งเป้าหมายของสิทธิประโยชน์มี 2 ส่วนคือ 1.สิทธิประโยชน์จากโครงการที่มีขอบเขตงานจ้างอยู่ 2. ผู้ประกอบการ SME ที่เป็นสมาชิก สสว. แต่อาจจะไม่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ มีเลขสมาชิกของ สสว. หรือ ONE ID จะได้รับสิทธิประโยชน์ 2 กรณี คือ 1.มหาวิทยาลัย/หน่วยงานภาครัฐ มาช่วยโครงการบางส่วน 2. ผู้ประกอบการไม่ได้เข้าร่วมเป็นผู้ประกอบการทั่วไป แต่เห็นสิทธิประโยชน์นี้ก็สามารถใช้ได้

ภายในงานได้จัดให้มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ แนะนำรายละเอียดกิจกรรมของโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS การรับสมัครผู้ประกอบการ SME เพื่อขึ้นทะเบียนการได้รับบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจบนระบบ BDS, แนะนำบริการจากภาครัฐ สิทธิประโยชน์เฉพาะ SME การลงทะเบียนจองสิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการ, บริการและแนะนำการถ่ายภาพสินค้าสำหรับการขายออนไลน์ การแนะนำให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายโรงงาน ทุกกิจกรรมล้วน มุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถ ยกระดับทางการตลาด ทางการผลิต เพื่อพัฒนาสู่ตลาดสากล

โอกาสนี้ ตัวแทนผู้ประกอบการได้เผยถึงความประทับใจที่เข้าร่วมกิจกรรมด้วย เริ่มที่ นางกัญจนพร สังฆะกาโล จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มปลูกอินทผาลัมและพืชเศรษฐกิจ บ้านบัวงาม อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด เล่าว่า “ที่ผ่านมากลุ่มวิสาหกิจกลุ่มปลูกอินทผาลัม ได้แปรรูปเป็นกาแฟอินทผาลัม ซึ่งให้ประโยชน์ แล้วยังมีปลาร้าที่ผสมไซรัปอินทผาลัม โดยในกลุ่มมีสมาชิกปลูกอินทผาลัม รวมพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ ซึ่งเป็นวอลลุ่มที่ใหญ่ ทำให้การจำหน่ายแบบสดไม่สามารถระบายได้หมด เพราะสุกพร้อมกัน และประมาณ 2 เดือนก็หมด จึงได้นำมาแปรรูปเพื่อช่วยเกษตรกรให้มีที่ระบายสินค้า และได้มาเข้าร่วมกับวิสาหกิจ SME เพื่อหาตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศระบายสินค้า การมาร่วมงานครั้งนี้ ได้รับประโยชน์มาก และยังได้ทิศทางว่า เราสามารถขายได้ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ได้ โดย ทีม สสว.จะช่วยหาตลาดให้ วันนี้ได้เห็นโอกาสและได้รับประโยชน์มากๆ”

ด้าน นายอำนาจ แสงดี เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดวาวี่ฟู้ดส์ เล่าว่า “ทำธุรกิจผลิตน้ำข้าวหอมมะลิสกัด ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิ จากแหล่งปลูกทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นสินค้านวัตกรรม มีความใส และความหอมของข้าว การมาร่วมงานของ สสว. ครั้งนี้ ได้ประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะอย่ายิ่ง ระบบ BDS ของโครงการ “SME ปังตังได้คืน ก้าวสู่ปีที่ 2” สามารถช่วยประหยัดเงินทุนได้สูงสุดถึง 80% ทำให้สามารถจัดสรรเงินทุนในส่วนต่าง ไปพัฒนาธุรกิจ เพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป