ในประเทศ

อ.ส.ค.งัดมาตรการเข้มรับมือโควิด-19 (ระลอกใหม่) สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค

จากปัญหาวิกฤติโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ที่กลับมาแพร่ระบาดระลอกใหม่อย่างรุนแรงและหนักหน่วงกว่าเดิม  ส่งผลให้องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เร่งปรับทัพด้วยการงัดหามาตรการคุมเข้ม เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคและประชาชน  ตลอดจนลดผลกระทบด้านสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานและการดำเนินงานของอ.ส.ค.

นายสุชาติ   จริยาเลิศศักดิ์  รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)   กล่าว   อ.ส.ค.ได้ออกประกาศเรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ด้านอุตสาหกรรม   โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 21และมาตรา 24 แห่งพระราชกฤษฎีจัดตั้ง อ.ส.ค. พ.ศ.2514 และที่แก้ไขเพิ่มเติม  ไปยังทุกหน่วยงานของ อ.ส.ค.ทั่วประเทศให้นำไปใช้อย่างเคร่งครัด เพื่อรับมือกับการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ที่รุนแรงขึ้น

โดยประกาศดังกล่าวจะมีครอบข่ายป้องกันใน 7 ด้านดังนี้    คือ  1.มาตรการป้องกันระดับโรงงาน  ตั้งแต่คัดกรองผู้ปฏิบัติงานและบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อโรงงานอย่างเข้มข้น  อาทิ  มีมาตรการคัดกรองเข้มข้นกับผู้ขับรถขนส่งน้ำนม  ผู้ขับรถส่งปัจจัยการผลิตและผู้ขับรถรับผลิตภัณฑ์นมก่อนเข้าสู่โรงงาน 2.กำหนดการปฏิบัติตนผู้ปฏิบัติงานและบุคคลภายนอกก่อนเข้าพื้นที่กระบวยการผลิตและอยู่ในกระบวนการผลิต อาทิ  ก่อนเข้าพื้นที่จะต้องให้ความร่วมมือในการตรวจวัดอุณภูมิร่างกายให้ใส่หน้ากากอนามัย  ล้างมือด้วยสบู่และแอลกอฮอล์70% ทุกครั้งอย่างเคร่งครัด

3.กำหนดการปฏิบัติตนผู้ปฏิบัติงานและบุคคลภายนอกในบริเวณสำนักงานและห้องประชุม  อาทิ  ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา   กำหนดพื้นที่การทำงานเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1เมตร  การประชุมทุกครั้งผู้เข้าร่วมต้องนั่งเว้นระยะห่างตามที่กำหนดพร้อมสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง   ส่วนกรณีที่พบผู้ปฏิบัติงานติดเชื้อในส่วนของสำนักงาน ให้พนักงานหยุดงานและดำเนินการตามพ.ร.บควบคุมโรคโดยปิดโรงงานหรือสำนักงานอย่างน้อย 1 วันเพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ 4.กำหนดมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดให้กับตัวแทนจำหน่ายให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 5.มีจุดบริการทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์เข้มข้น 70% และเจลล้างมือให้กับ ผู้ปฏิบัติงานและบุคลภายนอกอย่างพอเพียง และกำหนดจุดทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้งานแล้ว

6.มีป้ายประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการปฏิบัติก่อนข้าและขณะอยู่ในบริเวณพื้นที่โรงงาน ออกจาก บริเวณพื้นที่โรงาน และมีจุดรณรงค์/บอร์ดประชาสัมพันธ์ให้ตระหนักถึงการแพร่ระบาด และมาตรการที่ 7.คือ จัดทำแผนรองรับป้องกันการแพร่ระบาด

หากกรณีพบ ผู้ปฏิบัติงานและบุคคลภายนอกติดเชื้อ ดังต่อไปนี้

1.ผู้ปฏิบัติงานให้หยุดงานทันที โดยการรีบไปพบแพทย์ (พร้อมกักตัว 14 วัน ตั้งแต่วันที่แพทย์ วินิจฉัยว่าติดเชื้อ)   2.ให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือทำหนังสือโทรศัพท์แจ้งที่ศูนย์บริการ สาธารณสุข โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง หรือที่กรมควบคุมโรค โทร. 1422  3.ดำเนินการตาม พ.ร.บ ควบคุมโรค ต้องปิดโรงงานหรือสำนักงานอย่างน้อย 1 วัน เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในพื้นที่ที่พบ  พร้อมกันนั้นให้ผู้ปฏิบัติงานที่ใกล้ชิดกักตัวกับบุคคลดังกล่าว 14วัน  ส่วนบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่องานให้ออกจากพื้นที่โรงงานอ.ส.ค.ทันทีโดยการรีบไปพบแพทย์  ส่วนอ.ส.ค.ให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในทันที่

“จากมาตรการป้องกันที่เข้มข้นของอ.ส.ค.  เชื่อมั่นว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคและประชาชน  ตลอดจนลดผลกระทบต่อดูแลสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานและการดำเนินงานของอ.ส.ค.ได้อย่างมีประสิทธิภาพและพร้อมเชื่อมั่นว่าเราคนไทยจะผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 รอบใหม่นี้ไปด้วยกันในไม่ช้านี้ ”  นายสุชาติ กล่าว