รัฐทบทวนเปิดคาสิโนถูกกฎหมาย ศึกษาผลกระทบด้านลบ ด้าน “วิชา มหาคุณ” ชี้กฎหมายไทยยังไม่พร้อมบังคับใช้
จี้รัฐทบทวนเปิดคาสิโนถูกกฎหมาย ศึกษาผลกระทบด้านลบ ด้าน “วิชา มหาคุณ” ชี้กฎหมายไทยยังไม่พร้อมบังคับใช้ “นักวิชาการ” ไทยไม่ควรชูท่องเที่ยว “เหล้า-การพนัน” เงินไหลเข้าทุนต่างชาติ ได้แค่ภาษีเล็กน้อยไม่คุ้มต้องตามแก้ปัญหาสังคม สุขภาพ “จิตแพทย์” เตรียมยาบำบัด แต่คาดมีเท่าไหร่ก็ไม่พอ
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2024/04/01-25.jpg)
เมื่อเร็วๆนี้ ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน มูลนิธิต่อต้านการทุจริต และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกันจัดเสวนาวิชาการ “ถึงเวลาคาสิโนในไทย ? มองปัจจุบัน ฝันถึงอนาคต” โดยมี ศ.พิเศษวิชา มหาคุณ คณบดี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต พล.ต.ต. สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ สื่อมวลชนอาวุโส และพญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีธัญญา ร่วมเสวนา
ผศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล กล่าวว่า ประเทศไทยมีบริบทสังคมและเศรษฐกิจที่แตกต่างจากประเทศพัฒนาแล้ว จึงยังไม่ถึงเวลามีคาสิโนถูกกฎหมาย การศึกษาในต่างประเทศ พบว่า การมีคาสิโนถูกกฎหมายอาจจะทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องได้สั้นๆ แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว และแม้ประเทศมีการบังคับใช้กฎหมายที่ดี แต่คาสิโนถูกกฎหมายมีส่วนทำให้อาชญากรรมสูงขึ้นชัดเจน เช่น เดนมาร์ก เยอรมนี ฟินแลนด์ และเอเชีย ส่วนที่ไทยได้ศึกษาและพบว่า ประชาชนที่ได้รับเงินการช่วยเหลือจากรัฐจะมีการใช้จ่ายเกี่ยวกับการพนันเป็นปัญหาซ้ำเติมให้กับคนกลุ่มเปราะบาง ทั้งนี้ถ้าเทียบกับสิงคโปร์ตอนมีคาสิโนถูกกฎหมายปี คศ.2005 เป็นช่วงที่ประเทศมีการเติบโต จีดีพีสูงประมาณ 3 หมื่นดอลล่าสหรัฐ ประชากรส่วนใหญ่มีคุณภาพ แต่ไทยมีจีดีพี 7 พันดอลสหรัฐ และถ้าดูการบังคับใช้กฎหมาย สิงคโปร์อยู่ลำดับ 1 ของโลก คะแนน 9.0 ส่วนไทยการบังคับใช้กฎหมายได้คะแนน 5.5 เท่านั้น เรียกว่าบริบททางสังคม เศรษฐกิจ การบังคับใช้กฎหมายคุณภาพประชาชนต่างกัน
“เรื่องการท่องเที่ยวสิงคโปร์เน้นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ หากต่อไปมีคาสิโนถูกกฎหมายไทยจะมีครบทั้งผู้หญิง การพนัน สุรา ท้ายที่สุดเราจะดึงนักท่องเที่ยวแบบไหนเข้ามา ทำรายได้ให้ประเทศจริงหรือเปล่า” ผศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าว
ผศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าวต่อว่า ตนมั่นใจว่า ส.ส. ในสภาจะรักประชาชน หากจะทำสิ่งใดที่กระทบต่อประชาชน และแผ่นดินต้องทำประชามติ ตัวอย่างฮาวายในอดีตผู้นำฮาวายไม่ยอมให้มีการพนันทุกรูปแบบเพราะจะดึงดูดนักท่องเที่ยวที่คนฮาวายไม่ต้องการ มาทำลายทรัพยากร วัฒนธรรมอันดี ปัจจุบันคนฮาวายยังยึดมั่นจุดยืนฮาวายต้องไม่มีพนันทุกชนิด ดังนั้นสิ่งที่รัฐต้องทำคือพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีคุณภาพ เมื่อคนมีคุณภาพก็จะช่วยพัฒนาประเทศให้เปลี่ยนผ่านประเทศกำลังพัฒนาเป็นประเทศที่มีรายได้สูง ไม่ใช่ให้ประชาชนติดการพนัน
ศ.พิเศษวิชา มหาคุณ กล่าวว่า ต้องศึกษาผลกระทบทางด้านสังคม ทั้งนี้มีการใช้วาทกรรมว่าเป็นสถานบันเทิงครบวงจร คนในพื้นที่จะได้รับประโยชน์ด้วย มีการลงทุน มีการสัมปทาน แต่ตามหลักสากลสูตรการคอร์รัปชั่นคือ “สัมปทานผูกขาด บวกด้วยดุลพินิจที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ลบด้วยการตรวจสอบคือไม่มีการตรวจสอบ” นี่คือสิ่งกังวล ปัจจุบันต้องยอมรับว่าไทยมีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย แล้วจะมั่นใจได้อย่างไร
ที่จริงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยจะมองถึงธรรมชาติสวยงาม นี่ต่างหากเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ดังนั้นต้องศึกษาผลกระทบต่างๆ ให้ละเอียดรอบคอบ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ ส.ส. ที่สนับสนุนคาสิโนว่า ที่ผ่านมาประชาชนมีปัญหาจากการพนันอะไรอยู่บ้าง จะได้รู้กันไปว่า ส.ส. ไม่ได้สนใจคนในพื้นที่เลย
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2024/04/03-28.jpg)
ศ.พิเศษวิชา ยืนยันว่า การเปิดคาสิโนถูกกฎหมายไม่ช่วยสกัดกั้นการพนันที่ไม่ถูกกฎหมาย อย่าเอาทัศนคติที่เห็นว่าการแก้ปัญหาสิ่งที่ผิดกฎหมาย ต้องเอาขึ้นมาอยู่บนดินให้หมด อีกหน่อยแก้ปัญหาอะไรก็ไม่ได้ก็คิดจะทำให้ถูกกฎหมายไปหมด การออกกฎหมายต้องใช้จริยธรรมอย่างยิ่ง ไม่ขัดแย้งกับความสงบเรียบร้อย ศีลธรรมอันดี
“ที่ผ่านมา ศาลวินิจฉัยเสมอว่า หนี้ที่เกิดจากการพนัน ขัดต่อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน หากต่อไปตั้งบ่อนถูกกฎหมาย ศาลก็ต้องยอมรับ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยบังคับหนี้จากการพนันเลย ศ.พิเศษวิชา กล่าว
นายพิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กล่าวว่า จริงๆ เรื่องนี้มีการเสนอเมื่อปี พ.ศ.2546 แล้ว และส่งหนังสือขอความเห็นและข้อเสนอแนะจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่องการดำเนินธุรกิจหรือกิจการที่กระทบต่อเศรษฐกิจ เช่น เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รวมถึงคาสิโนด้วย ทางสภาที่ปรึกษาฯ ตอบกลับและยังเป็นคำตอบยังทันสมัยอยู่ คือ สังคมไทยยังขาดความพร้อม เพราะค่านิยม พฤติการณ์ของคนไทยมีแนวโน้มชอบเล่นการพนัน การบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ การพนันเป็นหนทางแห่งความเสื่อมนำมาซึ่งความหายนะ ไม่ทำให้บ่อนพนันเถื่อนหมดไป การจัดระบบการพนันให้ง่ายต่อการควบคุมเหมาะสมถูกต้องยากที่จะเป็นไปได้ และ ธุรกิจการพนันไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมการจ้างงาน แต่ทำให้ผู้เล่นพนันเพิ่มขึ้น อาชญากรรมเพิ่มขึ้น ล้มละลาย ปัญหาครอบครัว ความเจ็บป่วยสูงขึ้น บรรทัดฐานของสังคมเสื่อมถอยลง ดึงเงินจากประชาชนเข้าสู่ระบบการพนันมากขึ้น แก้ปัญหาเงินทุนไหลออกนอกประเทศไม่ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่นสู่อิทธิพลระดับชาติที่กลายเป็นเครือข่ายนักการเมือง และการคอรัปชั่นระดับชาติ หรือคอรัปชั่นเชิงนโยบาย เป็นต้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความเห็นต่อกรรมาธิการศึกษาการเปิดคาสิโนว่า หากปล่อยให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายอาจจะก่อให้เกิดปัญหาครอบครัว พัฒนาเป็นปัญหาสังคมอาชญากรรม ลักทรัพย์ดูแลยากหากตั้งในชุมชนหรือใกล้สถานศึกษา และอาจกลายเป็นแหล่งฟอกเงิน เกิดกลุ่มอิทธิพล แหล่งมั่วสุม ผู้เล่นใหม่เพิ่ม ฯลฯ โดยมีข้อมูลว่า แม้ไทยยังไม่มีคาสิโนถูกกฎหมาย แต่ 21% ของปัญหาอาชญากรรม มาจากปัญหาการพนัน หรือ 1 ใน 5 ของปัญหาทั้งหมด
ต้องศึกษาเพิ่ม แล้วให้สังคมชั่งน้ำหนักว่าจะเป็นอย่างไร ที่สำคัญต้องมีการรับฟังความเห็นของประชาชน ตามมาตรา 58 ของรัฐธรรมนูญ มีความชัดเจนว่า การดำเนินการใดๆของรัฐ หรือรัฐจะอนุญาตให้ผู้ใดดำเนินการ ถ้าการนั้นอาจมีผลกระทบต่อธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิต หรือส่วนได้ส่วนเสียสำคัญอื่นใดของประชาชนหรือชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง รัฐต้องดำเนินการให้มีการศึกษาและประเมินผลกระทบ และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาดำเนินการหรืออนุญาตตามที่กฎหมายบัญญัติ
“ผมเป็นห่วง ถ้า กฎหมายไม่พร้อม ไม่ว่าจะทำคาสิโนไซส์ไหนก็ตาม ตราบใดที่เรายังบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ และสังคมไม่พร้อม รัฐบาลไม่ทำก็ได้ไม่เป็นไร” นายพิเชษฐ์ กล่าว
พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ กล่าวว่า ตอนนี้ยังเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน และการสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ ยังอยู่ในช่วงการศึกษาซึ่งอาจจะมีเวลาน้อย แต่เราดูหมดทั้งข้อดีและผลกระทบทั้ง 6 ด้าน ออกมาเป็นรายงาน อย่างไรก็ตาม ครม. มีมติ เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ให้ตั้งคณะทำงานศึกษาเพิ่มเติมใน 30 วัน ก่อนเสนอกลับเข้า ครม. และยกร่างพระราชบัญญัติโดยกฤษฎีกา เสนอต่อสภาเพื่อพิจารณา เรามีร่างกฎหมาย 86 มาตรา โดยเอารูปแบบผลกระทบ มาตรการกลไกที่ควรจะมี ยกตัวอย่างสิงคโปร์ในการควบคุมและการรักษาผู้ป่วยต่างๆ ประชาชน สามารถลงชื่อ 10,000 รายชื่อยกร่างกฎหมายเข้าไปประกบได้ ซึ่งจะมีการอภิปรายประมาณเดือนกรกฎาคม 2557 รวมถึงสามารถรณรงค์ให้เห็นถึงปัญหาต่างๆ อย่างชัดเจนได้
“ถ้าทำประชามติ ผมยืนยันได้ว่า คนทั้งประเทศไม่เอาอยู่แล้ว มีเพียงคนส่วนน้อยที่เอา ส่วนการบังคับใช้กฎหมาย รัฐต้องเข้มงวดโดยเฉพาะเว็บการพนัน ซึ่งปัจจุบันเข้าถึงได้ง่ายเพราะมีระบบอัลกอริทึม ไม่มีการปิดกั้นการโฆษณา ดังนั้นสิ่งที่ทำต่อคือติดตาม หรือจะค้านก็ไปที่ ครม. ให้ชะลอ ถ้าชะลอไม่ได้ ก็คือให้เลื่อนคาสิโนออกไปก่อน” พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าว
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2024/04/02-28.jpg)
พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ กล่าวว่า วันนี้คิดว่าถึงเวลาที่ทุกคนต้องมานั่งคุยกัน เพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนเป็นนโยบายเชิงเศรษฐกิจนำด้านอื่นๆ ทุกฝ่ายจึงต้องช่วยกันรับมือ ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้การเสพติดการพนันเป็นโรคชนิดหนึ่ง และมากกว่าการติดสารเพสติด เพราะเป็นการติดใจ ติดความรู้สึก ยิ่งเดิมพันเยอะยิ่งอยากเอาคืน กระบวนการคิดจะเสียไป โดย 2 ใน 10 ที่เล่นการพนันต้องมาพบแพทย์เพื่อบำบัด เพราะไม่สามารถเอาตัวเองออกจากวังวนนี้ได้ ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งยาสำหรับการเลิกเหล้าที่ใช้ในการรักษาโรคติดการพนันด้วยตัวเลขคนติดพนันที่เข้าถึงบริการมีหลักแสนคนในปัจจุบัน ดังนั้นการทำคาสิโนถูกกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย ถือเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก ว่าการพนันผิดกฎหมายจะลดลงได้จริงหรือไม่ ถ้าการปราบบ่อนผิดกฎหมายข้างนอกยังทำได้ไม่ดี ยาบำบัดโรคติดพนันที่เตรียมไว้คงไม่พอ
รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ กล่าวว่า หลายประเทศ ความสำเร็จของคาสิโนอยู่ที่การวางแผนที่ดี ปัญหาทางสังคมและปัญหาต่างๆ ที่จะตามมามีเยอะมาก รายงานฉบับนี้ออกมาท่ามกลางบรรยากาศที่ทุกคนเห็นว่าผ่านแล้วมีเลย ถือว่าเป็นเรื่องอันตราย ประเทศไทย ยังไม่พร้อมมีคาสิโน เพราะมีขาดความพร้อมในหลายด้าน ในรายงานการศึกษาของกมธ.พบว่า พยายามใช้ 2 คำสลับกันคือคำว่าสถานบริการครบวงจรและคำว่าคาสิโน หากอยากจะโชว์ตัวเลขว่าได้เงินเยอะ ก็จะพูดในภาพรวมว่าเป็นสถานบริการครบวงจร เช่น มีการจ้างงานคนกว่า 20,000 คน แต่ไม่มีรายละเอียดว่าทำอะไรบ้าง และแม้ในรายงานยอมรับว่า มีผลกระทบกับสังคมในด้านต่างๆ แต่มักพูดถึงแต่ข้อดี ไม่พูดข้อเสีย และอย่าลืมว่า ที่สิงคโปร์ ทำสถานบริการครบวงจรสำเร็จที่สร้างเงินไม่ใช่คาสิโน คาสิโนเป็นแค่ส่วนหนึ่งของสถานบริการครบวงจรและมีการปรับกฎหมายควบคุมเข้มงวด เงินจากคนต่างชาติ 70% คนในประเทศ 30% ดังนั้น คาสิโนที่คนเล่นส่วนใหญ่เป็นคนในประเทศ ปัญหาก็อยู่ในประเทศ
รศ. ดร.นวลน้อย กล่าวต่อว่า ในรายงานมีการประเมินว่ามีนักท้องเที่ยวต่างชาติ 20% เท่านั้น อีก 80% เป็นคนในประเทศ ศูนย์ฯ มีการสำรวจปัญหาการพนันทุก 2 ปี ล่าสุดปี 2566 พบ คนที่มีปัญหาได้รับผลกระทบจากการพนันและติดพนันมีประมาณ 20% ถ้าดูเฉพาะคนที่เข้าคาสิโน จะพุ่งขึ้นเป็น 30% ขณะที่ภาษีที่เก็บจากคาสิโนจะได้เพียง 10-15% แล้วต้องเอาเงินภาษีไปดูแลคนกว่า 30% สิ่งนี้ไม่มีใครพูดถึง ส่วนรายงานของคณะกรรมาธิการฉบับที่แล้วมีการทำสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรเอาไว้ ประชาชนเห็นด้วยว่าควรมีเอ็นเตอร์เทนมเนต์คอมเพล็ก ถ้าเป็นห้างหรือโรงแรมเห็นด้วย 80-90% แต่พอเป็นคาสิโนการเห็นด้วยตกลงมาที่ 30% และการสำรวจสถานการณ์การพนันในสังคมไทยที่ผ่านมาของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน สัดส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยให้มีคาสิโนถูกกฎหมายอยู่ที่ประมาณ 52% มาตลอด ส่วนที่เห็นด้วยประมาณเกือบ 30% อีกส่วนหนึ่งยังตัดสินใจไม่ได้ ดังนั้น ยืนยันว่า ต้องมีการศึกษาอย่างละเอียด ต้องทำประชามติ เพราะไม่ใช่เรื่องคนใดคนหนึ่ง คนไม่เล่นก็ได้รับผลกระทบด้วย