สังคม-CSR

กลุ่มเซ็นทรัล ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนบริจาคโลหิต ในโครงการ “Blood Hero ภูมิใจในสายเลือดฮีโร่” พร้อมรับหน้ากากผ้าเป็นที่ระลึก

กลุ่มเซ็นทรัล นำโดย สุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักนโยบายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์ ร่วมกับ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดกิจกรรมในแคมเปญ “Blood Hero ภูมิใจในสายเลือดฮีโร่ เชิญชวนพนักงานกลุ่มเซ็นทรัลและประชาชนร่วมบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อีกทั้งยังเป็นการสร้างคุณค่า ความภาคภูมิใจ ร่วมด้วยช่วยกันฝ่าวิกฤติเลือดขาดแคลน โอกาสนี้  กลุ่มเซ็นทรัลได้ส่งมอบงบประมาณสนับสนุนจำนวน 500,000 บาท เพื่อใช้ในการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ เพื่อใช้ในการดำเนินงานของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ในโครงการ “Run for Blood – วิ่งหาเลือด เพื่อผู้ป่วย”

ภายในงาน กลุ่มเซ็นทรัล ร่วมเชิญชวนพนักงานกลุ่มเซ็นทรัล ร่วมเป็น 1 ในขบวนการสายเลือดฮีโร่ ด้วยการบริจาคโลหิต โดยได้รับเกียรติจาก ปิยนันท์ คุ้มครอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านจัดหาโลหิตและภาพลักษณ์องค์กร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โดยมีนักแสดงและศิลปินชื่อดัง ได้แก่ แก๊ป-ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล และ ศิลปินกลุ่ม Playground พร้อมด้วยเซเลบริตี้จิตอาสา ได้แก่ ณชา จึงกานต์กุล, วิมลลักษ์ จงรัตนเมธีกุล, พญ.พลอยลดา ธนาไพศาลวรกุล, จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา, วสวี วรเพียร, สุทธิพงษ์ สุริยะ และ ชัญญ ธนเพ็ญชาติ ร่วมเป็น 1 ในขบวนการสายเลือดฮีโร่ ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถ.อังรีดูนังต์

สุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักนโยบายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัล ได้ร่วมกับ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดทำโครงการบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 เป็นหนึ่งในโครงการช่วยเหลือสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงขอเชิญชวนพนักงานกลุ่มเซ็นทรัล ร่วมเป็น 1 ในขบวนการสายเลือดฮีโร่ ด้วยการบริจาคโลหิต ในแคมเปญ “Blood Hero ภูมิใจในสายเลือดฮีโร่” พร้อมรับหน้ากาก Blood Hero เป็นที่ระลึก เพื่อยังประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยและประโยชน์ทางการแพทย์ต่อไป

จากสถานการณ์การบริจาคโลหิตปัจจุบัน พบว่า การบริจาคโลหิตยังไม่สม่ำเสมอ มีการขาดแคลนโลหิตบางช่วงเวลา ส่งผลกระทบทำให้ปริมาณโลหิตสำรองคงคลังไม่เพียงพอ ทั้งในภาวะปกติ และในภาวะวิกฤติที่ต้องใช้โลหิตในการรักษาอย่างเร่งด่วนจำนวนมาก ประกอบกับที่ผ่านมาเป็นช่วงของการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้อัตราการบริจาคโลหิตลดน้อยลงมาก เนื่องจากผู้บริจาคโลหิตมีความวิตกกังวลในการเดินทางมาบริจาคโลหิต จนเกิดภาวะวิกฤติโลหิตขาดแคลนทั่วประเทศ ส่งผลกระทบกับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับโลหิตในการผ่าตัด อุบัติเหตุ ฯลฯ ที่มีการสูญเสียโลหิตอย่างเฉียบพลัน จากสถิติการบริจาคโลหิต 1 ครั้ง ผู้บริจาคเสียสละเวลาเพียง 20 นาทีสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องการเลือดได้ถึง 3 ชีวิต ดังนั้นผู้ที่สละโลหิตเปรียบเสมือนการให้ชีวิตผู้อื่น นับเป็นการทำบุญกุศลให้แก่ตัวผู้บริจาคเอง และยังมีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ในการจัดหาโลหิตให้มีปริมาณโลหิตสำรองคงคลังที่เพียงพอเพื่อช่วยผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที

หมอพลอย – พญ.พลอยลดา ธนาไพศาลวรกุล กล่าวว่า เมื่อครั้งที่ตนทำงานให้กับสภากาชาดไทย ก็ได้มีโอกาสบริจาคโลหิตมาเรื่อยๆ จนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 20 แล้ว เวลาไปลงตรวจที่หัวหินก็จะมีจุดรับบริจาคเลือดอยู่ มีเวลาว่างจากตรวจเพียง 30 นาทีก็เพียงพอ การบริจาคเลือดในทางการแพทย์เองก็มีข้อดีตรงที่ร่างกายเราจะได้เคยชินกับการเสียเลือด เป็นการกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ทุกๆ 3 เดือน การเป็นหมอทำให้คุ้นเคยกับการรักษาด้วยการให้เลือดอยู่แล้ว เห็นมาตลอดว่าคนไข้บางคนต้องใช้เลือดมากกว่า 1 ถุง และที่ผ่านมาเลือดในคลังก็ขาดแคลนเป็นระยะ ต่อให้ไม่ใช่ช่วงระบาดของโควิด-19 ก็ตาม ทางสภากาชาดก็ได้ออกโครงการเพื่อระดมให้คนมาร่วมกันบริจาคโลหิต ถ้าเรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงพอที่จะให้เลือดได้ ก็ขอให้ช่วยกันมาบริจาคเลือดกันทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้ในคลังมีเพียงพอต่อการใช้รักษา จะได้เป็นการต่อชีวิตคนได้

ทางด้าน โบว์-ณชา จึงกานต์กุล บอกว่า ตนเป็นคนที่มุ่งมั่นตั้งใจบริจาคเลือดมาตั้งแต่สมัยเรียน แต่พอเข้ามาบริจาคแล้วทางสภากาชาดไทยก็ได้ส่งผลการตรวจเลือดมาให้พบว่าเป็นคนที่มีภาวะเลือดติดโค้ด ที่เลือดตกตะกอน ไม่สามารถนำไปใช้ได้ ประกอบกับมีภาวะโลหิตจาง แต่ก็หาทางอื่นช่วยเหลือสภากาชาดไทยมาโดยตลอด เช่น บริจาคสิ่งของจำเป็น อย่างขนมคันนาของเราเอง เพื่อให้กำลังเล็กๆ ของเราได้กระตุ้นให้คนมาร่วมกันบริจาคโลหิตทุกๆ 3 เดือนกัน การให้เลือดของ 1 คนเป็นการช่วยบอกต่อให้คนรอบๆ ตัวได้กระตุ้นการรับรู้ของคน ตราบใดที่เรายังใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่ การบริจาคโลหิตเป็นสิ่งที่ควรกระทำ เพราะที่ผ่านมาเราก็เห็นข่าวสารมาตลอดว่าวันๆ ทางโรงพยาบาลต้องการเลือดเพื่อต่อชีวิตคนไข้กันมากขนาดไหน เลือดในธนาคารโลหิตต้องได้รับการเติมเต็มอยู่เสมอ และตอนนี้การบริจาคเลือดก็ไม่จำเป็นต้องมาที่สภากาชาดเท่านั้น เพราะตอนนี้มีศูนย์บริการโลหิตกระจายตัวอยู่ทุกพื้นที่แล้ว ยิ่งบริจาคยิ่งแข็งแรง

ทางกลุ่มเซ็นทรัล จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์เชิญชวนผู้บริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย ด้วยการเพิ่มจำนวนครั้งของการบริจาคโลหิต โดยเฉพาะผู้บริจาคโลหิต ปีละ 1 ครั้ง ให้บริจาคเพิ่มอีก 1 ครั้ง และเป็นผู้บริจาคประจำอย่างต่อเนื่องทุก 3 เดือน จะช่วยทำให้มีปริมาณโลหิตที่สม่ำเสมอ และมีโลหิตเพียงพอจ่ายให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งการรณรงค์ในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยบรรเทาสภาวการณ์ขาดแคลนโลหิตและได้รวมพลังทำดีร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง