December 30, 2025
Latest:
ในประเทศ

ศธ.-โคราช ผนึก สสส. เดินหน้า “ปลูกพลังบวก” พัฒนา EF เด็กปฐมวัย สร้างภูมิคุ้มกันปัจจัยเสี่ยงเหล้า–บุหรี่   ปูรากฐานชีวิตเชิงรุก ป้องกันปัญหาสังคมระยะยาว

จังหวัดนครราชสีมา โดยสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาทักษะสมอง Executive Function (EF) สำหรับเด็กปฐมวัย ควบคู่โครงการ “ปลูกพลังบวก เพื่อสร้างจิตสำนึกภูมิคุ้มกันปัจจัยเสี่ยง (เหล้า บุหรี่) สู่สุขภาวะที่ดีของเด็กปฐมวัย” มุ่งเน้นการพัฒนาเด็กอายุ 0–6 ปี ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของการพัฒนาสมองส่วนหน้า ผ่านการเสริมทักษะการควบคุมตนเอง การคิดอย่างมีเหตุผล การจัดการอารมณ์ และการตัดสินใจ พร้อมปลูกฝังค่านิยมและทัศนคติเชิงบวก เพื่อป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงในระยะยาว และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดปัจจัยเสี่ยงทั้งในโรงเรียน ครอบครัว และชุมชน

นายวีระ แข็งกสิการ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุกในการปกป้องเด็กและเยาวชน โดยเน้นการป้องกันตั้งแต่ต้นทาง ผ่านการทำงานอย่างเป็นระบบใน 3 ระดับ ได้แก่ ระดับนโยบาย ระดับสถานศึกษา และระดับภาคีเครือข่าย เพื่อสร้างสถานศึกษาที่ปลอดภัย ลดปัจจัยเสี่ยง และพัฒนาทักษะชีวิตควบคู่กับการดำเนินงานของโรงเรียนคุณธรรม โรงเรียนสีขาว และระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะเด็กปฐมวัยซึ่งถือเป็นด่านแรกของการสร้างภูมิคุ้มกันชีวิต ครูและสถานศึกษาจึงต้องทำงานร่วมกับผู้ปกครองและชุมชนอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันปัญหาเหล้า บุหรี่ และยาเสพติดอย่างยั่งยืน

ด้านนายไพศาล ที่รัก ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กปฐมวัยอายุ 0–6 ปี ในฐานะช่วงวางรากฐานสมอง พฤติกรรม และทักษะชีวิต โดยบูรณาการการพัฒนาทักษะสมอง Executive Function (EF) ร่วมกับโครงการ “ปลูกพลังบวก” ของ สสส. เข้าสู่การจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ ควบคู่การพัฒนาศักยภาพครู การสร้างเครือข่ายโรงเรียนต้นแบบ และการเชื่อมความร่วมมือกับครอบครัวและชุมชน เพื่อสร้างระบบคุ้มครองเด็กในระดับจังหวัด และเตรียมขยายผลจากสถานศึกษาสู่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงปีงบประมาณ 2568–2569

นางสาวมาลัย มินศรี ผู้จัดการโครงการปลูกพลังบวกฯ กล่าวว่า ในระยะต่อไป โครงการจะมุ่งเสริมความเข้มแข็งเชิงระบบมากขึ้น โดยยกระดับกลไกกำกับและการบูรณาการในระดับจังหวัดให้มีความต่อเนื่อง เชื่อมโยงข้อมูลจากสถานศึกษาสู่ระดับพื้นที่และระดับนโยบาย เพื่อติดตามผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของเด็ก ครอบครัว และชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่การพัฒนาสื่อและนวัตกรรมที่เหมาะสมกับเด็กปฐมวัยและบริบทพื้นที่ รวมถึงการเสริมศักยภาพครู ผู้บริหาร และภาคีเครือข่ายผ่านระบบนิเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับสถานศึกษาเครือข่ายเป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ เพื่อขยายผลสู่โรงเรียนและชุมชนอย่างเป็นระบบ

ขณะเดียวกัน โครงการยังเน้นการทำงานเชิงลึกกับครอบครัวและชุมชน เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงจากเหล้า บุหรี่ และส่งเสริมวินัยจราจร เช่น การสวมหมวกนิรภัย ให้เกิดเป็นบรรทัดฐานทางสังคมที่เอื้อต่อการเติบโตของเด็ก พร้อมพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสารสาธารณะ เพื่อถ่ายทอดบทเรียนและผลลัพธ์จากพื้นที่สู่สังคมวงกว้าง และสร้างการปกป้องเด็กปฐมวัยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

นางกันตินันท์ ลาเกิด รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลประชารัฐสามัคคี สพป.นครราชสีมา เขต 4 กล่าวว่า เด็กปฐมวัยเป็นช่วงวัยสำคัญที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการป้องกันปัจจัยเสี่ยงอย่างเหล้าและบุหรี่ เนื่องจากเด็กเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว โรงเรียนจึงให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้าใจแก่ครู ผู้บริหาร และผู้ปกครองตั้งแต่ต้นทาง ควบคู่กับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและการสื่อสารกับครอบครัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันดูแลเด็กอย่างรอบด้าน

ทั้งนี้ การเข้าร่วมโครงการปลูกพลังบวกช่วยให้ครูสามารถนำองค์ความรู้ไปใช้จริง ผ่านสื่อ นิทาน เพลง และกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย ทำให้เด็กเข้าใจโทษภัยของเหล้าและบุหรี่ และถ่ายทอดต่อไปยังครอบครัว ส่งผลให้ผู้ปกครองเกิดความตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โรงเรียนยังต่อยอดการรณรงค์สู่ชุมชนและกลุ่มผู้ปกครอง จนเกิดผลลัพธ์เชิงประจักษ์ และได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 10 โรงเรียนต้นแบบการขับเคลื่อนโครงการปลูกพลังบวกของจังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568

ด้านนางสาวญาณกร ทรัพย์มาก ครูปฐมวัยชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านหนองแดง สพป.นครราชสีมา เขต 3 กล่าวว่า โครงการปลูกพลังบวกช่วยเปิดมุมมองใหม่ในการจัดการเรียนรู้ โดยเฉพาะการใช้นิทานและสื่อที่ค่อย ๆ ปลูกฝังความคิด ทำให้เด็กเข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้ได้จริง สื่อจากโครงการและกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษายังสามารถต่อยอดทั้งในห้องเรียนและการสื่อสารกับผู้ปกครอง เด็กนำความรู้ไปสะท้อนในครอบครัว ส่งผลให้ผู้ปกครองลด ละ เลิกการดื่ม พร้อมย้ำว่าการสื่อสารเรื่องโทษภัยของเหล้า บุหรี่ และยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันชีวิตและวางรากฐานความปลอดภัยให้เด็กในระยะยาว

นางสาวมาลัยกล่าวเพิ่มเติมว่า การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาทักษะสมอง EF ควบคู่โครงการปลูกพลังบวกในจังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นการป้องกันปัจจัยเสี่ยงตั้งแต่ต้นทาง ผ่านการบูรณาการความร่วมมือของภาครัฐ สถานศึกษา ครอบครัว และชุมชน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันชีวิตให้เด็กปฐมวัยอย่างเป็นระบบ อันจะนำไปสู่การลดปัญหาเหล้า บุหรี่ และยาเสพติดในระยะยาว พร้อมวางรากฐานสังคมที่ปลอดภัยและยั่งยืนในอนาคต