“วุ้นเส้นต้นสน” เล็งเห็นโอกาส ขยายไลน์สินค้ากลุ่ม “ซอสปรุงรส” เปิดตัว “น้ำจิ้มสุกี้-ซอสผัดไทย” เกาะเทรนด์ Home Cooking ผู้บริโภคยุคใหม่
“วุ้นเส้นต้นสน” เดินหน้าขยายไลน์สินค้ากลุ่มซอสปรุงรส ภายใต้แบรนด์ “ต้นสน” ตอกย้ำ แบรนด์ที่แข็งแกร่ง เปิดตัว “น้ำจิ้มสุกี้-ซอสผัดไทย” ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ใส่ใจสุขภาพ และหันมาทำอาหารเองที่บ้านมากขึ้น ลุยทำตลาด-วางขายสินค้าช่องทางออนไลน์ในช่วงแรก มุ่งเจาะคนรุ่นใหม่ ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ 1-2% ของมูลค่าตลาดซอสปรุงรส 3.5 หมื่นล้าน ภายใน 1 ปี
คุณพรรณา ปัญจวีณิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิทธินันท์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตราต้นสน เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯ มีการรุกตลาดครั้งสำคัญ เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ น้ำจิ้มสุกี้ ซึ่งเป็นซอสยอดนิยมของผู้บริโภค และซอสผัดไทย เมนูยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งถือเป็นการขยายไลน์สินค้าภายใต้แบรนด์ “ต้นสน” ซึ่งมีความแข็งแกร่ง โดยเป็นแบรนด์วุ้นเส้นอันดับ 1 ที่น่าเชื่อถือและอยู่ในใจคนไทยมาอย่างยาวนาน การันตีด้วยผลสำรวจและรางวัลระดับประเทศที่ได้รับ ทั้งรางวัล Superbrands ต่อเนื่อง 7 ปี และรางวัล No.1 Brand Thailand 2025 จึงมองเห็นถึงโอกาสที่จะต่อยอดไปสู่กลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพ และมีความเชื่อมโยงกับสินค้าหลัก
ทั้งนี้ มองโอกาสทางธุรกิจของ 2 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จากแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ และนิยมทำอาหารรับประทานเองมากขึ้น โดยมองหาการมีตัวช่วยที่ทำให้การทำอาหารง่าย สะดวก สะอาด ปลอดภัย ใครทำก็อร่อย สะท้อนจากตลาดซอสปรุงรสที่เติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังเห็นโอกาสในการขยายตลาดส่งออก จากความนิยมของอาหารไทยที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งทำให้มีการขยายตัวของร้านอาหารไทย รวมถึงคนไทยที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศจำนวนมากที่นิยมทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน ช่วยเพิ่มความต้องการสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสของไทย โดยเฉพาะเมนูผัดไทยและสุกี้ที่ถือเป็นเมนูยอดนิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของซอสปรุงรสทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ มุ่งเจาะทั้งกลุ่มครัวเรือนและกลุ่ม HoReCa (โรงแรม ร้านอาหาร และบริการจัดเลี้ยง) โดยจะเน้นไปที่ กลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือกลุ่มครอบครัวที่นิยมทำอาหารเอง ไปจนถึงกลุ่มร้านอาหารขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ร้าน Street Food พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ตามบ้านหรือคอนโดทำอาหารจำหน่ายในช่องทาง Delivery ที่ต้องการตัวช่วยให้ทำอาหารได้ง่ายขึ้น รวดเร็ว ประหยัดเวลา และอร่อยเหมือนกันทุกจาน โดยให้ความสำคัญกับการเลือกวัตถุดิบที่ใช้นำมาปรุงอาหาร ที่มีความสะอาด ปลอดภัย ซึ่งซอสปรุงรสของต้นสนตอบโจทย์ด้วยการผลิตและบรรจุที่ได้มาตรฐาน เน้นใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีในการแต่งสีและกลิ่น ไม่ใช้วัตถุกันเสีย และซอสผัดไทยยังไม่มีผงชูรสอีกด้วย
ปัจจุบันภาพรวมตลาดซอสและเครื่องปรุงในไทย มีมูลค่ารวมกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 5-7% ต่อปี โดยเฉพาะกลุ่มซอสพร้อมปรุงและน้ำจิ้ม ในส่วนของตลาดซอสผัดไทย ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มซอสพร้อมปรุงที่มียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมีการเติบโตเฉลี่ย 6-8% ต่อปี กลุ่มเป้าหมายคือ คนรุ่นใหม่ และกลุ่มลูกค้าในต่างประเทศ ที่ต้องการรสชาติไทยแท้ ใช้เครื่องปรุงน้อย และสามารถทำเองได้ง่ายๆ เนื่องจากผัดไทยเป็นอาหารที่คนทั่วโลกชื่นชอบ จึงมีศักยภาพสูงในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดออนไลน์และของฝาก ขณะที่ตลาดน้ำจิ้มสุกี้ มีการเติบโตเฉลี่ย 5-10% ต่อปี โดยได้รับความนิยมจากเทรนด์อาหารหม้อไฟ-สุกี้ ที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในครัวเรือน โดยเฉพาะในช่องทางค้าปลีกและออนไลน์ เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มมองหาแบรนด์ที่มีชื่อเสียง และมั่นใจในคุณภาพของสินค้า
คุณพรรณา กล่าวเพิ่มเติมว่า จุดขายของทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์คือ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่คำนึงถึงความสวยงามสะดวกใช้ และสะอาด ปลอดภัย ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูพรีเมียม ทันสมัย สร้างความโดดเด่นเพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ โดยมีฟิล์มสีทองหุ้มฝาปิดยาวถึงคอขวดมั่นใจได้เรื่องความสะอาด ทรงขวดจับถนัดมือ ปากขวดกว้าง เทสะดวก พร้อมจุดขายเรื่องรสชาติที่โดดเด่น โดยมีการพัฒนาซอสสูตรพิเศษเฉพาะต้นสนที่มีรสชาติ อร่อยกลมกล่อม เพิ่มจุดเด่นของวัตถุดิบเข้าไปกับซอสแต่ละรสชาติ โดยน้ำจิ้มสุกี้จะมีความหอมงา ที่สามารถเห็นเนื้องาชัดเจนตั้งแต่ในขวด และซอสผัดไทย ที่มีความหอมและเปรี้ยวจากมะขามแท้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อร่อยง่ายๆ มัดใจทุก Gen”
ทั้งนี้ ในช่วงเปิดตัวเพื่อให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด บริษัทฯ จึงเน้นทำการตลาดไปที่ช่องทางออนไลน์ในแพลตฟอร์มหลักๆ อาทิ Facebook Tiktok ตลอดจนสื่อสารผ่าน Influencer ที่ได้รับความนิยม นอกจากนี้ยังมีการออกบูธในงานแสดงสินค้าและกิจกรรมการแข่งขันกีฬาระดับประเทศ ที่มีผู้ร่วมงานจำนวนมาก อาทิ งาน THAIFEX, การแข่งขันวอลเลย์บอลระดับประเทศ โดยมีการแจกชิมเมนูจากน้ำจิ้มสุกี้และซอสผัดไทยให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิมฟรี เพื่อให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์และได้รับรู้ความอร่อยของสินค้า จนทำให้เกิดการบอกต่อ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีจัดกิจกรรมร่วมกับร้านอาหารย่านบรรทัดทอง โดยการแถมน้ำจิ้มสุกี้ให้กับลูกค้าที่สั่งเมนูวุ้นเส้นต้นสนผ่านช่องทาง Delivery
ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ในช่วงแรกเน้นนำเสนอไปยังร้านค้าส่งขนาดใหญ่ที่มีหน้าร้าน และซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ตลอดจนร้านค้าช่องทางออนไลน์ของบริษัททั้ง Shopee Lazada Tiktok ซึ่งที่ผ่านมามีผลตอบรับค่อนข้างดี และล่าสุดได้ขยายช่องทางจำหน่ายมายังโมเดิร์นเทรด อาทิ Tops, Foodland, Villa และร้านค้าทั่วไปในกรุงเทพและต่างจังหวัด ส่วนแผนในอนาคตจะเดินหน้าขยายเข้าไปในช่องทางและร้านค้าอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น
ทั้งนี้ แผนงานในช่วง 1 ปีแรก บริษัทฯ จะเน้นสร้างให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักและกระจายไปสู่ผู้บริโภคอย่างทั่วถึง ทำให้เกิดการทดลองใช้และกลับมาซื้อซ้ำ โดยตั้งเป้าหมายมีส่วนแบ่งตลาดใช่วงเปิดตัวปีแรกที่ 1-2% ของมูลค่าตลาด และคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างน้อย 2-3% เมื่อสินค้ากระจายไปถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงแล้ว
ส่วนแผนในอนาคต บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มซอส หรือสินค้าอาหารในกลุ่มอื่นๆ ทั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสาร โปรโมชั่น สินค้าใหม่ๆ ของครอบครัวต้นสนได้จากช่องทาง เว็บไซต์ www.tonsonfamily.com facebook : วุ้นเส้นตราต้นสน Line OA : TonsonFamily และช่องทางสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ Tonson Family Store ครอบคลุมทั้ง Shopee Lazada Tiktok

