สังคม-CSR

“ไก่แจ้ support” ส่งต่อความห่วงใย มอบข้าวสารต่อชีวิตลมหายใจ

มุ่งช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางนายธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงแบรนด์ “ไก่แจ้” ได้มอบข้าวในโครงการ “ข้าวไก่แจ้ Support ปี2” เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า โดยการมอบข้าวสารแก่บุคลากรทางการแพทย์ใน 10 โรงพยาบาล ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วม ฯลฯ และล่าสุด ยังคงดำเนินโครงการเดินหน้ามอบข้าวสารตราไก่แจ้ให้กับอีก 6 มูลนิธิ แบ่งเบาภาระขององค์กรที่ทำงานเพื่อสาธารณประโยชน์

แม้ว่าปัจจุบันคนไทยจะมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 และพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำให้สถานการณ์ในประเทศไทยในภาพรวมค่อยๆ ดีขึ้นจาก 2 ปีที่ผ่านมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนได้รับผลกระอีกมากมายทางด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหารและอีกหลายๆ อาชีพ

ธีรินทร์ กล่าวว่า ข้าวตราไก่แจ้มีการทำซีเอสอาร์มาก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 แต่ความที่อยากทำให้เป็นรูปธรรมชัดเจนยิ่งขึ้น ใน 2 ปีที่ผ่านมาจึงเปิดโครงการ “ไก่แจ้ Support” เพื่อช่วยเหลือและทำในเรื่องซีเอสอาร์ให้กับคนภายนอก โดยเริ่มขึ้นในช่วงเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ซึ่งในช่วงแรกๆ ในโรงพยาบาลเกิดการขาดแคลนไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ต่างๆ ข้าวตราไก่แจ้อยู่ในธุรกิจข้าวสารมองว่าน่าจะเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ให้กับทุกที่ จึงมอบข้าวสารให้กับ 10 โรงพยาบาล ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี เพราะทุกคนนำข้าวไปหุงกิน ขณะเดียวกันเงินที่เหลือสามารถนำไปใช้ชื้ออุปกรณ์การแพทย์ หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ที่ขณะนั้นกำลังขาดแคลนได้

นอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ ยังแบ่งปันเล่าประสบการณ์การบริหารจัดการกระทั่งข้าวตราไก่แจ้เป็นหนึ่งในองค์กรที่รอดพ้นจากสึนามิทางเศรษฐกิจในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่า มาจากการเรียนรู้ที่จะปรับตัวตลอดเวลา

นายธีรินทร์ เล่าต่อว่า ตลาดการค้าข้าวหลังมีวัคซีนโควิดน่าจะดีขึ้นตามลำดับไม่ว่าจะเป็นมาตรการการช่วยเหลือจากภาครัฐ โค-เพย์เม้นต์ เราเที่ยวด้วยกัน ธงฟ้าราคาประหยัด การเติมเงินให้กับประชาชนในเรื่องการรับจ่ายใช้สอย ฯลฯ ตรงนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจภาพรวมดีขึ้น และลงไปถึงฐานรากลงสู่ชุมชนอย่างแท้จริง เป็นสิ่งที่ผมมองว่าเศรษฐกิจน่าจะเติบโตและดีขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้ส่งผลแค่กับสินค้าข้าวสาร แต่ภาพรวมของสินค้าต่างๆ จะเติบโตขึ้นเป็นเงาตามตัว

สำหรับการมอบข้าวสารให้กับ 6 มูลนิธิในครั้งนี้ ประกอบด้วย มูลนิธิกระจกเงา, มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์, มูลนิธิศรัทธาชนเพื่อการศึกษาและเด็กกำพร้า, มูลนิธิร่วมกตัญญู (หงี่เต็กตึ้ง) มูลนิธิดวงประทีป และโรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา หรือบ้านเด็กตาบอดผู้พิการซ้ำซ้อน มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขากรุงเทพมหานคร

หนึ่งเสียงตอบรับจากตัวแทนทั้ง 6 มูลนิธิ คือ มูลธิกระจกเงา  วีราภรณ์ ประสบรัตนสุข หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและระดมทุน กล่าวว่า “ในส่วนของข้าวสารอาหารแห้งที่ได้รับบริจาคนั้น มูลนิธิจะนำไปใช้ในโครงการอาสาบ้านเยี่ยม ดูแลผู้ป่วยติดเตียงที่ยากไร้ โดยหลักการของเรา ไม่ได้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงโดยตรง แต่ดูแลผู้ที่ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ไปเยี่ยมเยียนเพื่อเยียวยา เพื่อดูแลเขาให้เขารู้ว่าเขามีกัลยาณมิตรมีเพื่อนที่จะอยู่เคียงข้างกับเขา เราเปิดรับข้าวสารอาหารแห้ง รวมทั้งอุปกรณ์การแพทย์ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ยารักษาโรค รวมทั้งอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยติดเตียง แล้วเอาไปเยี่ยมตามบ้าน ฉะนั้นอาหารและของอุปโภคบริโภคที่ได้รับมาเราจะส่งต่อ เรามีกลุ่มคนเหล่านี้ที่รอรับการช่วยเหลือประมาณ 1,000 กว่าครอบครัวทั่วประเทศ”

“เราได้รับการสนับสนุนจากข้าวตราไก่แจ้ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เราคุ้นเคยเวียนเข้าเวียนออกอยู่ในมูลนิธิเราอยู่เสมอๆ ขอขอบคุณสำหรับการส่งต่อความช่วยเหลือซึ่งมันจะเป็นกำลังใจต่อผู้ที่เดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ ขอบคุณค่ะ”