สาธารณสุข

80 ปี กรมการแพทย์ มุ่งพัฒนายกระดับการให้บริการด้วยการแพทย์วิถีใหม่

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงานประชุมวิชาการ 80 ปี กรมการแพทย์ “ทำดีที่สุดเพื่อทุกชีวิต : Do our best for all” แสดงศักยภาพการดูแลรักษาและนวัตกรรมของกรมการแพทย์ พร้อมเปิดแนวทางทศวรรษใหม่ มุ่งยกระดับการให้บริการด้วยการแพทย์วิถีใหม่ ใช้เทคโนโลยีในการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ดูแลผู้ป่วยทุกคนแบบ VIP อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงระบบรักษา ลดการเดินทาง ลดค่าใช้จ่าย  

วันนี้ (9 กรกฎาคม 2565) ที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กทม. ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการ 80 ปี กรมการแพทย์ “ทำดีที่สุดเพื่อทุกชีวิต : Do our best for all” พร้อมปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ยกระดับการแพทย์ไทยเพื่อบริการประชาชน : การแพทย์วิถีใหม่ (New Normal Medical Services) โดยมี นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ คณะผู้บริหาร ผู้ทรงคุณวุฒิ และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมงาน 

ดร.สาธิต กล่าวว่า ในการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกันทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลรักษาประชาชน แม้ว่าโรคโควิด 19 กำลังจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น แต่ยังต้องเตรียมพร้อมรองรับการดูแลรักษาและบริการทั้งผู้ป่วยโควิด 19 และผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ตลอดเวลา ถือเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงสาธารณสุขที่จะต้องขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด “สาธารณสุขสร้างชาติ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ สาธารณสุขวิถีใหม่ที่ดีกว่าเดิมในปี 2565” เพื่อยกระดับการแพทย์ด้วยการแพทย์วิถีใหม่ ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ผู้ป่วยได้รับบริการอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียม ผู้ให้และผู้รับบริการมีความปลอดภัยทั้งในสถานการณ์ปกติและเมื่อเกิดโรคอุบัติใหม่ รวมถึงลดความแออัดในสถานบริการ 

ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า กรมการแพทย์ ซึ่งเป็นกรมวิชาการ มีการดำเนินการที่สอดรับกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขประเทศ สร้างองค์ความรู้ในการวินิจฉัย บำบัด รักษา ฟื้นฟูสมรรถภาพ ให้ประชาชนได้รับบริการทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เกิดความพึงพอใจและได้รับประโยชน์สูงสุด สำหรับในทศวรรษใหม่ต่อจากนี้ จะมุ่งเน้นขับเคลื่อนใน 7 เรื่องหลัก คือ 1.ปรับรูปแบบการบริการให้มีความปลอดภัยจากโรคโควิด 19 โดยสนับสนุนการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม มีคุณภาพ 2.พัฒนา

ศักยภาพสถานพยาบาลให้บริการผู้ป่วยทุกคนแบบ VIP สะดวก ปลอดภัย ทันสมัย 3.บูรณาการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบองค์รวม ร่วมกับภาคีเครือข่ายและ 3 หมอในชุมชน 4.พัฒนาศักยภาพงานบริการ ต่อยอด 30 บาท “รักษาทุกที่ ไม่ต้องมีใบส่งตัว” อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงระบบรักษา ลดการเดินทาง ลดค่าใช้จ่าย 5.พัฒนาการรักษามะเร็ง รักษาทุกที่ เข้าถึงการรักษาแบบครบวงจร ทั้ง ผ่าตัด เคมีบำบัด และรังสีรักษา 6.พัฒนาศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ และ 7. พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้เป็นศูนย์ข้อมูลกลางสุขภาพประชาชน ซึ่งทั้งหมดจะทำให้ระบบสาธารณสุขประเทศมีความก้าวหน้า นำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจให้แข็งแรง ประชาชนแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรงต่อไป  

ด้านนายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ได้ตระหนักถึงระบบสุขภาพของประเทศที่กำลังเผชิญกับสิ่งที่ท้าทายและความเปลี่ยนแปลงรอบด้าน รวมถึงโรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จึงเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยการยกระดับ ปรับกระบวนการทำงานและวิธีคิด ร่วมผลักดันและดำเนินการตามนโยบายระบบบริการสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลรักษาอย่างมีคุณภาพ มาตรฐาน และไร้รอยต่อ ตามแนวทาง “ทำดีที่สุด เพื่อทุกชีวิต” และบรรลุเป้าหมายหลักของประเทศด้านสาธารณสุข “ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน”

สำหรับการประชุมวิชาการ กรมการแพทย์ ครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ทำดีที่สุดเพื่อทุกชีวิต : Do our best for all” เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ทำงานของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข นำไปพัฒนาการแพทย์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ศึกษาวิจัยต่อยอดผลงาน นวัตกรรม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยมีการนำเสนอผลงานประวัติศาสตร์และแนวทางในอนาคตของกรมการแพทย์ (DMS Next Normal) จัดบริการด้านสุขภาพจาก 14 หน่วยงานของกรมการแพทย์ให้กับประชาชน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมกิจกรรมเสวนาสุขภาพจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและศิลปินดารา สัมมนาเชิงลึกด้านการแพทย์แขนงต่างๆ และสินค้าสุขภาพ ผู้ที่สนใจสามารถร่วมงานได้ ที่ บางกอก คอนเวนชั่น เซ็นทรัลเวิร์ล กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 10 กรกฎาคม 2565