March 28, 2024
Latest:
ในประเทศ

สสส. ร่วมภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานภาคีเครือข่าย จ.นครพนม ต้นแบบลดอุบัติเหตุทางถนน

สสส. ร่วมภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานภาคีเครือข่าย จ.นครพนม ต้นแบบลดอุบัติเหตุทางถนน พร้อมหนุนการนำข้อมูลการสืบสวนวิเคราะห์สาเหตุอุบัติเหตุจนนำไปสู่การแก้ไข พร้อมชู ‘1669 Model’ ลดอุบัติเหตุในชุมชน เน้นบูรณาการร่วมทั้งภาครัฐ-ประชาสังคม-ชุมชน มุ่งปฏิบัติการเข้มข้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ หวังให้อุบัติเหตุเป็นศูนย์

นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน “พื้นที่ต้นแบบการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดนครพนม” ในการพัฒนาและเชื่อมภาคีเครือข่ายเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับจังหวัดและตำบล ปี 2565 โดยมี พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม แขวงทางหลวงนครพนม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม เครือข่าย สอจร. ให้การต้อนรับ

นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การลงพื้นที่ติดตามการแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนน จังหวัดนครพนม ถือเป็นพื้นที่ต้นแบบซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเกิดจากความร่วมมือของภาคีเครือข่ายระดับจังหวัดและท้องถิ่นที่สำคัญ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ประกอบกับเครือข่ายสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรในระดับจังหวัด (สอจร.) เข้ามามีส่วนร่วมทำให้คุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้นและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความเข้มแข็งในการลดอุบัติเหตุ ใช้ “1669 Model” เป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญ คือการมี “ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนตำบลบ้านผึ้ง” (ศปถ.ตำบลบ้านผึ้ง) เป็นหนึ่งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงาน ดึงทุกภาคส่วนเข้ามาร่วม วางแผน ประชุมติดตามงานสม่ำเสมอ จนทำแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

“ผลสำเร็จจากการลดอุบัติเหตุได้คือการมีหน่วยงานที่เป็นแกนนำสำคัญทั้ง ตำรวจภูธรจังหวัด องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ศปถ.อปท. ขับเคลื่อนจนเกิดการมีส่วนร่วมภาคประชาชน มีอาสาจราจรดูแลชุมชนเสริมงานตำรวจ และ สอจร. เข้ามาสนับสนุน ทำให้ประชาชนปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้น” นางสาวรุ่งอรุณ กล่าว

พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม กล่าวว่า จังหวัดนครพนมถือเป็นพื้นที่นำร่องในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุการจราจรบนท้องถนน ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า อุบัติเหตุลดลง ซึ่งมีการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งสหวิชาชีพ แขวงทางหลวงจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเน้นการนำข้อมูลการสอบสวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทางถนนมาร่วมกันวิเคราะห์หาสาเหตุอย่างละเอียดทั้ง ตัวบุคคล รถ ถนน สภาพแวดล้อม และส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปแก้ไข ส่งผลให้อุบัติเหตุลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมามีสถิติอุบัติเหตุลดลง นำมาสู่การวางมาตรการต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565

“ตำรวจเราทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยพนักงานสอบสวนจะนำข้อมูลการสอบสวนคดีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมาร่วมกันวิเคราะห์เพื่อค้นหาสาเหตุและหาแนวทางแก้ไขปัญหา จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมระดับจังหวัดทุกเดือน พร้อมสั่งการให้หัวหน้าทุกสถานีตำรวจจังหวัดนครพนมรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปแก้ไขในแต่ละพื้นที่ จากการติดตามผลดำเนินการพบว่าสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน” พล.ต.ต.ธนชาติ กล่าว

ด้าน นายสมบูรณ์ นาคะอินทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ระบุว่า จากการร่วมกับ 9 ภาคีเครือข่ายทั้งรัฐและเอกชน ทำ MOU ร่วมกัน โดยขับเคลื่อนผ่าน “1669 Model” ซึ่งเป็นหลักการในการทำงานโดยมี 1 คือ ศปถ.ตำบลบ้านผึ้งเป็นหนึ่งกลไกการทำงานหลัก เชื่อมประสานทุกภาคส่วนเพื่อสร้างตำบลขับขี่ปลอดภัย ร่วมกับ 6P-6E-9 หนุน และมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วม ทั้งการรณรงค์จุดเสี่ยงบนถนน การปลูกฝังเด็กผ่านหลักสูตรการขับขี่ปลอดภัย การใช้ข้ามทางม้าลายหน้าสถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก งานศพปลอดเหล้างานเศร้าปลอดการพนัน และการใช้กฎชุมชน เมาขับปรับ 200 พร้อมยึดกุญแจรถ โดยมีอาสาจราจร เป็นกำลังสำคัญทำงานหนุนเสริมกับท้องถิ่น-ตำรวจ ตั้งด่านชุมชน ดูแลป้องปราม ซึ่งปีที่ผ่านมาสามารถลดอุบัติเหตุได้อย่างชัดเจน

“ก่อนหน้านี้ชาวบ้านอาจจะไม่คำนึงถึงความปลอดภัย แต่พอมีโอกาสได้พูดคุยกับชาวบ้านรับรู้ปัญหาต่างๆ ร่วมกัน อย่างการใช้ถนนหลัก 4 เลนที่เป็นสายหลักที่รถมักใช้ความเร็ว จนเกิดอุบัติเหตุรุนแรงบ่อยครั้ง แต่เมื่อมีการขับเคลื่อนผ่าน 1669 Model สามารถรลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิต ประกอบกับการบังคับใช้กฎชุมชนอย่างจริงจัง” นายสมบูรณ์ กล่าว