ธุรกิจ-ตลาด

เปิดวิสัยทัศน์ ‘ซีอีโอ’ คนใหม่ ดัน SABINA ขึ้นแท่นแบรนด์ระดับภูมิภาค พร้อมตั้งเป้าปี 65 โตเพิ่ม 20% ดันรายได้ทะลุ 3.2 พันล้าน

“ดวงดาว มหะนาวานนท์” ซีอีโอใหม่ SABINA ประเดิมตำแหน่ง เปิดวิสัยทัศน์ 5 ปี เดินหน้าผลักดันแบรนด์ไทยก้าวสู่ความเป็นแบรนด์ระดับภูมิภาค พร้อมเปิดเกมรุกทุกช่องทางตั้งเป้ารายได้ยอดขายปีนี้แตะ 3.29 พันล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน ย้ำเป้าหมายระยะสั้นปั้นรายได้ให้กลับไปสู่ระดับที่เคยทำได้สูงสุดเมื่อปี 62 แม้จะต้องเผชิญปัจจัยท้าทายรอบด้าน ขณะที่สินค้าไฮไลท์สำหรับปี 65 จะเพิ่มสินค้ากลุ่ม Sustainable product เน้นดูแลสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณขยะ ขับเคลื่อนด้วยการผลิตผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ ส่วนแผนงานด้านการทำตลาดจะเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อวางสินค้าได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ลดการกระจายสินค้าผ่านหน้าร้าน

นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทฯ วางเป้าหมายยอดขายรวมไว้ที่ 3,295 ล้านบาท โดยตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 20% จากปีก่อน ซึ่งการจะทำให้เป้าหมายดังกล่าวประสบความสำเร็จจะขับเคลื่อนด้วยแผนงานที่สำคัญ 2 ด้าน ประกอบด้วย แผนงานสนับสนุนการขาย และแผนงานเพิ่มประสิทธิภาพการบริหาร

ในส่วนของแผนงานสนับสนุนการขาย บริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างช่องทางการขายเป็น 3 ช่องทางหลัก ประกอบด้วย ช่องทางการขายแบรนด์ในประเทศหรือ Retail Business ซึ่งเป็นสัดส่วนขายหลักของ SABINA โดยวางแผนที่จะสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและในปีนี้เป้าหมายการเติบโตของช่องทางนี้จะอยู่ที่ 20% ขณะที่ช่องทางขายแบบไม่มีหน้าร้านหรือ NSR (Non-Store Retailing) ซึ่งเป็นช่องทางที่มีการเติบโตสูง และสร้างผลกำไรได้ดีนั้น นอกจากจะผลักดันให้ช่องทางขายเดิมเติบโตเพิ่มขึ้น ในปีนี้ SABINA ยังจะสร้างช่องทางขายใหม่เพิ่มมากขึ้นให้สอดคล้องกับกระแสและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง

“เรายังได้ปรับโครงสร้างช่องทางขาย NSR โดยรวมช่องทางส่งออก (Export) เดิม เข้ามาไว้ในช่องทางขายออนไลน์ด้วย เนื่องจากการส่งออกสินค้าแบรนด์ “ซาบีน่า” ไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม) ส่วนใหญ่เป็นการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งโครงสร้างจะสะท้อนการเติบโตที่แท้จริงของช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งในปีนี้เราตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 20% เช่นเดียวกับช่องทางหลัก สำหรับช่องทางสุดท้ายคือ การรับผลิต (OEM) เรายังเน้นลูกค้าที่สร้างผลกำไรได้มาก ซึ่งจุดขายของ SABINA สำหรับการรับผลิตอยู่ที่ความเร็วและความประณีตในการผลิตสินค้าแฟชั่นมาตรฐานสูงสำหรับตลาดยุโรป โดยคาดว่าในปีนี้รายได้ OEM จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 10%”  นางสาวดวงดาวกล่าว

ขณะที่แผนงานในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงาน จะมุ่งเน้นให้มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น โดยวัดผลจากอัตราการบริหารค่าใช้จ่ายต่อยอดขายให้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลทางตรงต่อผลกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในที่สุด

ทั้งนี้ในปี 2565 “ซาบีน่า” ตั้งเป้าหมายเติบโตทุกช่องทาง และมุ่งมั่นที่จะทำให้ผลการดำเนินงานโดยเฉพาะยอดขายกลับไปเหมือนที่เคยทำสถิติสูงสุดเมื่อปี 2562 ซึ่งปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากสินค้า (Product) ที่มีคุณภาพ โดยในปีนี้ สินค้าของ SABINA จะมีความหลากหลายมากขึ้นและสร้างสีสันให้กับตลาดมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนเพิ่มสินค้า Sustainable product เน้นความรับผิดชอบต่อสังคม โดยใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ในการผลิตเพื่อลดปริมาณขยะ ขณะที่การกระจายสินค้าจะใช้ข้อมูล (Data) จำแนกความต้องการของลูกค้า เพื่อให้สามารถวางสินค้าได้ตามพอใจของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อลดภาระการกระจายสินค้าไปยังหน้าร้าน ซึ่งจะตอบโจทย์การขายได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าวถึงเป้าหมายในอีก 5 ปี (2565-2569) ของบริษัทฯ ด้วยว่า ทุกส่วนงานจะร่วมกันผลักดันให้ SABINA ก้าวสู่การเป็นแบรนด์ระดับภูมิภาค (Regional Brand) ซึ่งมั่นใจว่าจะสำเร็จในระยะเวลา 5 ปี จากปัจจัยสนับสนุนที่ผลิตภัณฑ์ของ “ซาบีน่า” ได้รับการยอมรับทั้งคุณภาพ ดีไซน์ รวมถึงความเข้าใจในสรีระของผู้บริโภค ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผลิตชุดชั้นในมากยาวนานกว่า 50 ปี ขณะเดียวกัน “ซาบีน่า” สามารถสร้างสรรค์กิจกรรมการทำตลาดกับผู้บริโภคในรูปแบบที่หลากหลาย และสามารถสร้างกระแสไวรัลในโซเชียล มีเดีย เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้เสมอ ทำให้เชื่อมั่นว่า แบรนด์ “ซาบีน่า” จะเป็นแบรนด์สินค้าไทยที่สามารถก้าวไปสู่การเป็นแบรนด์ระดับภูมิภาคได้อย่างแน่นอน